MGR Online - หลวงปู่พุทธะอิสระ ยื่นซีดี - หลักฐาน 200 กว่าหน้า ถึงอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ พิจารณาถอนประกัน “จตุพร พรหมพันธุ์” ให้สัมภาษณ์ตลอด 1 เดือน กล่าวหาว่าต้องอาบัติปาราชิก เข้าข่ายดูหมิ่น ผิดเงื่อนไขประกันตัวคดีก่อการร้าย ส่วนการคัดค้านตั้งสมเด็จพระสังฆราช ฝาก “สุวพันธุ์” อย่าถามธรรมกายฝ่ายเดียว เชื่อ ปชช. ส่วนใหญ่ไม่อยากให้ตั้ง
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (29 ก.พ.) พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้ยื่นเข้าหนังสือต่อ นายภาณุพงษ์ โชติสิน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อให้ยื่นคำร้องถอนประกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช. จำเลยคดีร่วมกับแกนนำชุมนุมก่อการร้ายเมื่อปี 2553 ต่อศาลอาญา เนื่องจากอ้างว่า นายจตุพร ให้สัมภาษณ์กล่าวหาใส่ร้าย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อาจเข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขของศาล ที่ระบุห้าม มิให้จำเลยกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะดูหมิ่นผู้อื่น หรือยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจจะก่อให้เกิดอันตราย กระทบต่อเกียรติยศ ชื่อเสียง และความเป็นอยู่ของผู้อื่น
พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า สืบเนื่องจากพฤติกรรมของนายจตุพร ตลอดระยะเวลา 1 เดือนเศษที่ผ่านมา ได้กล่าวใส่ร้ายให้อาตมาเสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติยศศักดิ์ศรี ใส่ร้ายว่าเป็นภิกษุ ผู้ต้องอาบัติปาราชิก เป็นผู้ตั้งแก๊ง 3 พ. ซึ่งคำว่าแก๊งในพระธรรมวินัยถือว่าเป็นความประพฤติชั่วหยาบ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับคำกล่าวหาว่า อาตมาไม่ใช่พระภิกษุในพุทธศาสนา ฉะนั้น พฤติกรรมของนายจตุพรจึงน่าจะจะเข้าข่ายดูหมิ่นผู้อื่น ซึ่งผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของศาล นอกจากนี้ได้ส่งพยานหลักฐานเป็นเอกสาร 200 กว่าหน้า และแผ่นซีดีจำนวน 18 แผ่นมายื่นให้อัยการพิจารณาด้วย
พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า นายจตุพรได้รับความเมตตาต่อศาลอาญาให้ปล่อยชั่วคราว แต่จากที่ปรากฏต่อสาธารชนนายจตุพรกลับพูดจาทำให้เสียชื่อเสียง หากขืนปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนก็จะเป็นข้อกังขาของผู้คนและสังคมต่อไป จึงขอให้อัยการพิจารณายื่นคำร้องขอถอนประกันต่อศาลอาญา เพื่อระงับไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่หากนายจตุพรจะฟ้องก็ยินดีที่จะสู้กันในชั้นศาล
นอกจากนี้ พระพุทธะอิสระ ยังกล่าวถึงประเด็นการคัดค้านแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ว่า ฝากถามไปยังนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีสำนักพระพุทธศาสนาจะทำบทสรุปทั้งด้านการต่อต้านและการสนับสนุน เกี่ยวกับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช เพื่อเสนอไปให้สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมา มีเพียงการสอบถามฝ่ายธรรมกาย หากมีการจัดทำบทสรุปจริง เหตุใดจึงไม่มีการสอบถามมายังอาตมา และหากกรณีนี้เป็นจริงก็อาจจะทำเรื่องฟ้องสำนักพุทธศาสนา ฐานรายงานเท็จ เพราะยังไม่มีการสอบถามทั้งสองฝ่ายอย่างครอบคลุมครบถ้วน
ส่วนกรณี นายจตุพร ระบุว่า ฝ่ายอาตมา เป็นคนกลุ่มน้อยที่ออกมาค้านสมเด็จช่วง ขึ้นเป็นสังฆราช นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะโพลก็มีการสำรวจความเห็นประชาชนร้อยละ 70 ยังไม่อยากให้มีการแต่งตั้งพระสังฆราช
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายจตุพร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องกิจของสงฆ์ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพระพุทธะอิสระเห็นว่าเป็นเรื่องที่กิจของสงฆ์ควรทำก็ไม่ว่ากัน อย่างไรก็ตาม การที่พระพุทธอิสระมายื่นเรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องของการเมือง และเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็น รวมทั้งพระพุทธะอิสระด้วย แต่การทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้เกิดการแตกแยกขึ้น