ผบช.น.แจง “อาร์ตูร์” ไม่เกี่ยวกลุ่มหัวรุนแรงสเปน ยังไม่พบเพื่อนสาวเอี่ยวคดี

MGR Online - รักษาการ ผบช.น.รับพบหนังสือหั่นศพในห้องพัก “อาร์ตูร์” จริง แต่ผู้ต้องหาอ้างเป็นแค่เรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเขมร เตรียมตรวจสอบโยงอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ แต่เชื่อไม่เกี่ยวขบวนการหัวรุนแรงในสเปน ยังไม่แจ้งความสาวไทยเพื่อนสนิทหรือกันเป็นพยาน เหตุยังไม่ชัดร่วมกระทำผิด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ไปค้นที่คอนโดมิเนียมพระราม 9 ที่นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซป อายุ 37 ปี ชาวสเปน ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฆ่านายเดวิด เบอร์เนต โมราด อายุ 40 ปี เช่าไว้ ปรากฏว่าพบหนังสือวิธีชำแหละศพในห้องนอนนายอาร์ตูร์จริงซึ่งขณะสอบสวนก็ได้นำหนังสือเล่มดังกล่าวเข้าร่วมด้วย แต่นายอาร์ตูร์ยืนยันว่าหนังสือเล่มดังกล่าวซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเขมร

ส่วนเรื่องที่นายอาร์ตูร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าหั่นศพที่ประเทศสเปนหรือไม่นั้น ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเนื่องจากข้อมูลยังไม่ชัดเจน ถ้าไปฟันธงจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน มันมีข้อมูลแต่อยู่ในระหว่างตรวจสอบของทางสเปน ทั้งนี้จะต้องมีการตรวจสอบด้วยว่านายอาร์ตูร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ ก็ได้สอบถามจากทางเจ้าหน้าที่ของสเปนแล้วยืนยันว่านายอาร์ตูร์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศสเปนอย่างแน่นอน

ส่วนเงินที่นายอาร์ตูร์รีดเอาจากผู้ตายได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบซึ่งข้อสงสัยต่างๆ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ทราบ ส่วนเรื่องที่นายอาร์ตูร์เคยรู้จักกับนายดาวิดที่ประเทศสเปนนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อมูล แต่ที่ทราบมาว่ารู้จักกันในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในประเทศไทย ต้องตรวจสอบต่อไป

ส่วน น.ส.ปริศนา หรือพลอย แสงอุบล เพื่อนสนิทของนายอาร์ตูร์นั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำการแจ้งความใดๆ เพียงแค่สอบถามในฐานะพยานคนหนึ่ง และไม่ได้กันไว้เป็นพยาน เพราะการที่กันไว้เป็นพยานแสดงว่าผู้นั้นต้องทำผิดร่วมด้วย แต่ในกรณีของ น.ส.ปริศนานั้นยังไม่พบหลักฐานว่าเป็นผู้ที่ร่วมกระทำความผิดด้วย

ส่วนเรื่องที่มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาจุดที่ทิ้งชิ้นสวนศพนั้น พรุ่งนี้ (12 ก.พ.) เวลา 10.00 น.จะมีการประชุมกันอีกครั้งที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อวิเคราะห์หลักฐานต่างๆ และพิสูจน์ว่าเรื่องนี้ยังมีบุคคลอื่นที่มีความเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ หรือก่อเหตุเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์อย่างเดียวหรือไม่ หรือมีมูลเหตุอื่น เชื่อว่าเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเพียงพอแน่นอน