MGR Online - ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกบันทึกคำสั่งเวียนให้ทุกหน่วยงานจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร ถึงรองผู้บังคับการ ให้เสร็จสิ้นก่อน 11 กุมภาพันธ์นี้
วานนี้ (28 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีบันทึกคำสั่งเรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ถึง ผู้บัญชาการ (ผบช.) หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้บังคับการ (ผบก.) ในสังกัดสำนักงาน ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า โดยบันทึกระบุว่า ด้วยขณะนี้การดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ ผบก.ขึ้นไป วาระปี 2558 ได้เสร็จสิ้นแล้ว คงเหลือการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึงรอง ผบก. ซึ่งตามมติ ก.ตร.ครั้งที่ 1/2559 ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 29 ก.พ. 2559 จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการดังนี้
1. ผู้มีอำนาจแต่งตั้งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ ปี 2547 แก้ไขเพิ่มเติมตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 88/57 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ ประกาศ คสช.ฉบับที่ 89/57 เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 44/58 เรื่องการแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2558 กฎ ก.ตร.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2551 และ พ.ศ. 2553 และแนวทางการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามนัยหนังสือ ตร. ด่วนที่สุด ที่ 0009.231/ว 99 โดยเฉพาะกรณีต่อไปนี้
1.1 ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการคัดเลือกแต่งตั้งจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งทุกราย หากมีกรณีการคัดเลือกแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ต้องมีการเสนอขอรับความเห็นชอบและระบุเหตุผลให้ชัดเจนโดยละเอียด 1.2 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งจากส่วนราชการหนึ่งไปอีกส่วนราชการหนึ่ง ให้หัวหน้าส่วนราชการทำความตกลงกันให้ถูกต้องครบถ้วนทุกราย 1.3 การแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้แต่งตั้งได้เฉพาะผู้ที่มีรายชื่อตามที่ปรากฏอยู่ในบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น โดยพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 33 ของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่ง และข้าราชการตำรวจที่อยู่ในกลุ่มอาวุโสสูงจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 33 ของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่งต้องได้รับการคัดเลือกแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นทุกราย เว้นแต่มีข้อมูลที่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงไม่คัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในกลุ่มดังกล่าว
1.4 ให้ทุกหน่วยดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามที่ ก.ตร. หรือ อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ มีมติเยียวยาหรือแก้ไขให้กับผู้ร้องทุกข์ทุกราย ทั้งนี้ ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข้าราชการตำรวจที่ได้รับการเยียวยากับ สง.ก.โดยตรง 1.5 ข้าราชการตำรวจที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นปีแรกและได้รับการคัดเลือกแต่งตั้งเลื่อนตำแหน้งสูงขึ้นจะต้องมีผลการปฏฺบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ทุกรายตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยย้ายข้าราชการตำรวจระดับ สว. ถึง จชต. และ รอง ผบ.ตร. พ.ศ. 2549 ข้อ 33
2. นอกจากปฏิบัติตามข้อ 1 แล้ว ตร.ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งตั้งเพิ่มเติม ดังนี้
2.1 ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งพิจารณาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าถูกต้องเป็นความจริงทั้งในส่วนที่เป็นการยกย่องชมเชยหรือเป็นกรณีการให้ข้อมูลข้าราชการตำรวจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับความมั่นคง ให้นำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณาแต่งตั้งอีกส่วนหนึ่งด้วย 2.2 ข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่ง พงส.ผนก.ถึง พงส.ผทค. ที่ได้รับรางวัลพนักงานสอบสวนดีเด่น ประจำปี 2558 ของ ตร. หากไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้พิจารณาแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่ง พงส.ผนก. ถึง พงส.ผทค. ในสถานีตำรวจที่มีปริมาณและคุณภาพสูงขึ้นหรือดำรงตำแหน่งเดิมต่อไป
2.3 ให้ผู้มีอำนาจพิจารณาแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนข้าราชการตำรวจกรณีดังกล่าว เพื่อให้ผู้ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนในแต่ละหน่วยงานเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมและทำให้การปฏิบัติราชการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 2.4 ให้ทุกหน่วยจัดส่งบัญชีลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ รอง สว.ถึง ผกก. รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ให้คณะกรรมการจัดทำบัญชีข้อมูลฯ ก่อนการประชุมไม่น้อยกว่า 3 วัน 2.5 การจัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อตำแหน่งสูงขึ้น และผู้ไม่เหมาะสม ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึง จตช. และรอง ผบ.ตร. พ.ศ. 2549
2.6 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี สับเปลี่ยนหมุนเวียนในตำแหน่งเท่าเดิม ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ผบ.ตร.ก่อน ให้ผู้มีอำนาจดำเนินการเฉพาะกรณีที่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น ตามนับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง ข้อ 14 และ 2.7 ผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ ผกก.ตำแหน่งเดียวติดต่อกันครบ 4 ปี หากหน่วยมีเหตุผลความจำเป็นต้องให้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันต่อไป ให้เสนอเหตุผลความจำเป็นไปยัง ตร.ในคราวเดียวกัน
3. สำหรับแนวทางการปฏิบัติในการใช้อำนาจแต่งตั้งของผู้มีอำนาจ กรณีการทำคาวมตกลงระหว่าง สง.ผบ.ตร. กับ บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. มอบหมายให้ สกพ. รับผิดชอบ ดำเนินการแทน ผบ.ตร.
4.เพื่อให้การพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ สว. ถึง รอง ผบก. วาระประจำปี 2558 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการดังนี้
4.1 บช.หรือ บก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร. ให้ดำเนินการจัดส่งบัญชีข้อมูลประกอบการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว. ถึง รอง ผบก. ไปยัง ตร. ภายใน 11 ก.พ. 2559
4.2 กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่จะต้องนำเสนอ ก.ตร. พิจารณาอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบให้เสนอ ตร. ผ่าน สกพ. ภายใน 16 ก.พ. 2559
4.3 บช.ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร.ให้ดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึง รอง ผบ.ก. ให้เสร็จสิ้นและมีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยใน 26 กพ. 2559 โดยให้คำสั่งแต่งตั้งมีผลใช้บังคับพร้อมกันใน 1 มี.ค. 2559
4.4 เมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจแล้ว ให้แต่ละหน่วยรับผิดชอบตรวจสอบความถูกต้องและรวบรวมสำเนาคำสั่งภายในอำนาจ ผบช. พร้อมทั้งสรุปจำนวนคำสั่งที่แต่งตั้งรายชื่อข้าราชการตำรวจที่แต่งตั้งดำรงตำแหน่งระหว่างหน่วย และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดส่งไปยัง ตร. โดยด่วนภายใน 3 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งแต่งตั้ง
5. ข้าราชการตำรวจที่ได้รับแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอื่น เมื่อ่ได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งแล้วก่อนเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ ให้ดำเนินการส่งมอบหน้าที่ตามนัยระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงเรียนมาเพื่อทราบแล้วถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ลงชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.