MGR Online - สตม.จัดอบรม ตม.สุวรรณภูมิ เพิ่มความเข้ม ตรวจหนังสือเดินทางปลอมป้องกันการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ยอมรับคนร้ายมักใช้ไทยเป็นฐานในการทำความผิดและเดินทางไปประเทศที่ 3
วันนี้ (19 ม.ค.) พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมทีมสุวรรณภูมิ ด้านการตรวจสอบหนังสือเดินทางเพื่อความมั่นคงของอาเซียนพร้อมทั้งบรรยายพิเศษในหัวข้อเดียวกัน โดยมี พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผบก.ตม.2, ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย เช่น ฝรั่งเศส, แคนาดา, ออสเตรีย, เนเธอแลนด์, จีน, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, ออสเตรเลีย, นอร์เวย์, องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารฝ่ายช่าง ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม.กล่าวว่า การจัดอบรมทีมสุวรรณภูมิในครั้งนี้เป็นการนำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานในสนามบิน เช่น เจ้าหน้าที่สายการบิน, ปราบปรามยาเสพติด, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจสันติบาล, ตำรวจพื้นที่, เจ้าหน้าที่ธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเข้ารับการฝึกอบรมให้มีความรู้ด้านการตรวจหนังสือเดินทาง ซึ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติมักใช้ในการลักลอบเข้าประเทศเพื่อเป็นการเดินทางไปประเทศที่สาม เช่น เจ้าหน้าที่สายการบิน บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน หากมีความรู้ในการตรวจสอบหนังสือเดินทางเบื้องต้นก็จะช่วยเจ้าหน้าที่ ตม. ในการสกัดจับคนร้ายได้ หรือแม้เจ้าหน้าที่ธนาคาร หากตรวจสอบได้ก็จะรู้ว่าบุคคลที่มาแลกเงินหรือเปิดบัญชีนั้นเป็นตัวจริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันมักจะมีผู้ใช้หนังสือเดินทางปลอมไปเปิดบัญชีธนาคาร และยังเป็นการสร้างเครือข่ายในการทำงานร่วมกัน เพื่อต่อสู้การก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อความมั่นคงของอาเซียน โดยนำวิทยากรจากประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา, ออสเตรเลีย มาร่วมบรรยายกับผู้เชี่ยวชาญจาก บก.ตม.2 มีการสาธิตการตรวจหนังสือเดินทาง การทดสอบความรู้การตรวจพาสปอร์ตผ่านเทคโนโลยีออนไลน์
ผบช.สตม.กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยในการจับคนร้ายแล้ว การใช้กฎหมายอำนาจปกครองเข้ามาช่วยก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 59 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติรายใดที่อยู่ในไทยเกินกำหนด หลังจากถูกผลักดันออกนอกประเทศแล้วก็จะถูกขึ้นบัญชี (แบล็กลิสต์) ห้ามเข้าประเทศตามระยะเวลาที่อยู่เกินในไทยอีกด้วย คาดว่าจะสามารถสกัดกลุ่มอาชญากรหรือแก๊งปลอมหนังสือเดินทางไม่ให้ใช้ไทยเป็นฐานในการทำความผิดหรือเป็นที่พักรอก่อนเดินทางไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป
