“ศานิตย์” สอบชาวซีเรียไม่พบเชื่อมโยงไอเอส

MGR Online - รรท.ผบช.น. ยัน 4 ชาวซีเรีย สอบพบไม่เอี่ยวไอเอส หนึ่งในสี่แจ้งความเอาผิดคนปล่อยภาพพาสปอร์ตลงโซเชียลฯ ฐานหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าการควบคุมตัวชาวซีเรียผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่มไอเอส ทั้ง 4 ราย ว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ได้มีการควบคุมชายชาวซีเรีย 3 ราย ได้ในพื้นที่ กทม. คือ 1. นายนาว์เฟล ฮัซซัน (Mr.Nawfal Hassoun) อายุ 34 ปี ซึ่งเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังมีภาพปรากฏในสื่อ 2. นายอับดุล อาซิซ อรุค (Mr.Abdul Aziz Arouk) อายุ 44 ปี อาชีพนักร้อง ซึ่งถูกตำรวจ สน.ลุมพินี เชิญตัวมาให้ข้อมูล และ 3. นายมูอยาด เฮยาติ (Mr.Mouayad Hayati) อายุ 29 ปี ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย และในช่วงเย็นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมนายฮาก็อป แกสสาเบียน (Mr.Hagop Kassanbian) อายุ 57 ปี ได้ที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งจากการสอบปากคำก็พบว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบพบว่า นายอับดุล อาซิซ อรุค มีความผิดฐานพักอาศัยอยู่ในประเทศเกินกำหนดเวลา (over stay) ส่วน นายนาว์เฟล ฮัซซัน และ นายมูอยาด เฮยาติ ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สำหรับ นายฮาก็อป ได้แจ้งความดำเนินคดีผู้ที่นำภาพหนังสือเดินทางและเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุว่า เป็นบุคคลต้องสงสัยสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย ฐานหมิ่นประมาท ซึ่งทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง นอกจากนี้ ตำรวจนครบาล ได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเมืองและกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เข้ามาก่อเหตุร้าย

ด้าน พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับชายชาวซีเรียทั้ง 4 คน ที่ถูกควบคุมตัวนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อให้เกิดความกระจ่างและชัดเจนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ส่วนกรณีการตรวจสอบหนังสือราชการลับของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เรื่องเฝ้าระวังและตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นกลุ่มสมาชิกก่อการร้ายไอเอส เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ส่วนจะมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่นำเอกสารดังกล่าวออกมาเผยแพร่หรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจตนาสร้างความตื่นตระหนกตกใจหรือไม่ อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงสื่อมวลชน รวมทั้งประชาชนผู้รับข่าวสารว่าอย่าตื่นตระหนกและอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี