xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอแจงไม่มีการบุกค้นวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตามกระแสโซเชียลฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - กรมสอบสวนคดีพิเศษออกมาชี้แจงข่าวลือเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีใช้ ม.44 สั่งบุกค้นวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สอบปากคำสมเด็จช่วง และยึดรถโบราณ ไม่เป็นความจริง เตือนใครนำข้อมูลเท็จลงระบบคอมพิวเตอร์มีความผิด ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร

วันนี้ (16 ม.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาเปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวบนระบบอินเตอร์เน็ต โดยอ้างแหล่งข่าวว่ามาจากกลุ่มไลน์สถาบันปัญญานันทะ ว่านายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 44 สั่งการให้ดีเอสไอประสานกำลังทหาร ตำรวจ กว่า 100 นาย เตรียมบุกจู่โจมวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อสอบสวนปากคำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และประธานกรรมการมหาเถรสมาคม และยึดรถโบราณในพิพิธภัณฑ์ โดยมีการประชุมลับและคาดว่าจะเข้าจู่โจมในอีกไม่เกินสองวันข้างหน้านั้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไส) ขอชี้แจงทำความเข้าใจกับสาธารณชนให้ทราบโดยทั่วกันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ให้ดีเอสไอปฏิบัติการในเรื่องดังกล่าว และดีเอสไอก็มิได้มีการประชุมลับ หรือเตรียมการจะปฏิบัติการในเรื่องดังกล่าวตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยกรณีที่มีการสร้างข่าวเท็จขึ้นนี้อาจเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พระพุทธะอิสระได้ยื่นเรื่องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์ที่นำเข้ามาจากนอกราชอาณาจักรของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง ดังที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่แล้ว

เนื่องจากดีเอสไออยู่ระหว่างการตรวจสอบรถยนต์จดประกอบที่อาจนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากร จำนวนกว่า 5,000 คัน ซึ่งก็รับเรื่องไว้ดำเนินการสืบสวนว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางเอกสารกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง อันเป็นขั้นตอนปกติในการปฏิบัติงานและเหมือนกับกรณีอื่นๆ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบ และขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มบุคคลที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จบนระบบคอมพิวเตอร์ในเรื่องนี้ ว่าการกระทำดังกล่าวอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) (2) ฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

ทางดีเอสไอจึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนทุกท่านเพื่อทราบข้อเท็จจริงและขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร โดยเฉพาะที่ไม่ได้มาจากหน่วยงานราชการ และข้อมูลข่าวสารบนระบบอินเตอร์เน็ต มิฉะนั้นจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหรือผู้ไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมือง และการที่เผยแพร่ต่อซึ่งข้อความที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ ก็อาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (5) ฐานเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อันเป็นเท็จด้วย โดยกรณีนี้ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากการประชาสัมพันธ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษผ่านช่องทางต่างๆ โดยตรงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นความจริง
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น