ตำรวจบุปผารามนำโชเฟอร์แท็กซี่พร้อมเมียฝากขังศาลธนบุรีคดีลักทรัพย์ ผงะพบภาพมือถือ-กล้องดิจิตอล-ปืนในโทรศัพท์ อ้างผู้โดยสารทำลืมไว้จึงเอาไปขาย ส่วนปืนเป็นของเพื่อน จนท.ยังไม่เชื่อ หวั่นล่วงละเมิดทางเพศผู้โดยสารด้วย แนะผู้เสียหายตรวจร่างกายเพราะผู้ต้องหาติดโรคนาน 2-3 ปี
วานนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส.สน.บุปผาราม เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายวิษณุ หรือนุ แสวงสุข อายุ 35 ปี อาชีพโชเฟอร์แท็กซี่ ชาว จ.นครสวรรค์ และ น.ส.ขวัญตา หรือจอย วัฒนานนท์กิจ อายุ 36 ปี ภรรยา อาชีพพนักงานร้านสะดวกซื้อ ชาว จ.เพชรบุรี ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ซึ่งฐานความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุกราว 7 ปี
พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าสงสัยคือ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นภาพโทรศัพท์มือถือและภาพถ่ายกล้องดิจิตอลยี่ห้อคาสิโอ คาดว่าเป็นของผู้เสียหายรายอื่นๆ ในโทรศัพท์ของนายวิษณุจำนวนมาก โดยโทรศัพท์นั้นมีทั้งไอโฟน ซัมซุง และแบล็กเบอร์รี หลายรุ่นจำนวนนับสิบเครื่อง นายวิษณุอ้างว่าเป็นของผู้โดยสารที่ทำตกหล่นไว้บนรถจึงนำไปขายให้พรรคพวกและร้านค้าที่ตลาดเสือป่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดเข้ามาแจ้งความประสงค์ว่าเป็นเจ้าของ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใดที่เคยลืมหรือทำโทรศัพท์ตกหล่นไว้บนรถแท็กซี่ให้เข้ามาแจ้งความอายัดและดำเนินคดีนายวิษณุเพิ่มเติมเพราะถือเป็นภัยสังคม
“หากผู้เสียหายเพียงแค่ทำทรัพย์สินตกหล่นเอาไว้บนรถและถูกนายวิษณุยึดเอาไปขายก็ถือว่ายังโชคดี แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกังวลขณะนี้คือ เกรงว่าอาจจะมีเหยื่อที่โดนล่วงละเมิดทางเพศแล้วอับอายไม่กล้ามาพบพนักงานสอบสวน ก็ขอให้เดินทางไปตรวจร่างกายด้วย เนื่องจากนายวิษณุยอมรับว่าติดโรคร้ายมานาน 2-3 ปีแล้ว นอกจากนั้น ฝ่ายสืบสวนยังพบภาพอาวุธปืนลูกโม่ไทยประดิษฐ์ขนาด .22 ในโทรศัพท์ของนายวิษณุซึ่งถูกถ่ายในห้องพักบนเตียงนอนของนายวิษณุด้วย แต่ขณะนี้ค้นหาของกลางไม่พบ เมื่อทำการสอบเค้นเจ้าตัวอ้างว่าเป็นปืนเพื่อนยืมมาถ่ายเก็บไว้ดูเล่น หากนายวิษณุเคยใช้ปืนกระบอกดังกล่าวก่อเหตุกับผู้โดยสารรายใดก็จะสามารถแจ้งความดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดฯ เพิ่มเติมโทษจำคุกให้เข็ดหลาบได้อีกหลายปี” พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์กล่าว