จนท.หลายหน่วยสนธิกำลังบุกช่วยสาวพม่าถูกนายจ้างใน จ.นครปฐม ลวงข่มขืน

นครปฐม - จนท.หลายหน่วยงานสนธิกำลังจู่โจมเข้าช่วยเหลือแรงงานสาวชาวพม่า ถูกนายจ้างลวงไปข่มขืน จนญาติประสานขอความช่วยเหลือจากแรงงานชาวพม่าด้วยกัน กระทั่งนำสู่การติดตามจับกุมตัวเจ้าของโรงงานที่ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ พร้อมตั้งข้อหาให้ที่พักพิงคนงานต่างด้าว และตั้งโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาต ส่วนการข่มขืนกระทำชำเรา ต้องสอบสวนอย่างละเอียด

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (11 พ.ค.) นายสมบูรณ์ ตรัยศิลานันท์ ผู้อำนวยการ กองคุ้มครองแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ร.ต. สุชาติ แสนประเสริฐ สังกัดร้อย.รส.ม.พัน.19 (กองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารม้า ที่19) พ.ต.ท.ภาณุทัต เหลือสัจจกุล รองผู้กำกับการ สภ.สามควายเผือก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 30 คน ได้บุกเข้าตรวจสอบภายในโรงงานไพบูลย์ แฟชั่นยีนส์ ตั้งอยู่เลขที่ 16/1 หมู่ 4 ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม หลังได้รับการประสานจากมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน ว่า มีเหยื่อสาวชาวพม่า ถูกนายจ้างล่วงละเมิดทางเพศ และถูกข่มขู่จนเกิดความหวาดกลัว

จากการเข้าตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าทั้งหญิง และชาย รวม 15 คน มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมาย 6 คน และไม่มีใบอนุญาตทำงาน 9 คน ก่อนเร่งหาตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาวพม่า ที่ได้รับแจ้งว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยพบ น.ส.เอ ยังคงอยู่อาการหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และนักจิตวิทยา กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จึงได้เชิญตัว นายอองเล อายุ 37 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานมาสอบถามให้ข้อมูล จนทราบว่า เหยื่อสาวชาวพม่าที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศเป็นน้องเมียของตน และเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ถูก นายไพบูลย์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นนายจ้าง ล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ

โดยอ้างว่าจะนำตัวไปช่วยงานที่โรงงานอีกแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี แต่ระหว่างกลับ ถูก นายไพบูลย์ พาเข้าโรงแรม และลงมือข่มขืน ก่อนนำตัว น.ส.เอ ไปทิ้งไว้ที่โรงงานในจังหวัดกาญจนบุรี ต่อมา น.ส.เอ ได้โทรศัพท์มาบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนจึงนั่งรถไปรับ น.ส.เอ กลับมาที่โรงงาน ซึ่งเมื่อ นายไพบูลย์ ทราบเรื่องได้เจรจาเสนอเงินให้ จำนวน 10,000 บาท และไล่ให้ น.ส.เอ เดินทางกลับประเทศ และหากไม่ทำตามก็ให้ นายสมจิตร อาสาคติ หัวหน้าคนงานซึ่งเป็นชาวไทย และพกอาวุธปืนตลอดเวลาทำร้ายร่างกาย

“เมื่อปรึกษากับเมีย และน้องเมียที่ยังหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย ก็ได้ขอต่อรองขอค่าเสียหายเป็นเงิน 100,000 บาท ซึ่ง นายไพบูลย์ ได้ขอแบ่งจ่าย 2 งวด แต่จากนั้นก็มีการพูดจาลักษณะข่มขู่มาตลอด จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนงานสัญชาติเดียวกัน จนกระทั่งนายจ้างของเพื่อนได้พาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อมูลนิธิฯ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา” นายอองเล กล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายไพบูลย์ เจ้าของโรงงาน และนายสมจิตร อาสาคติ หัวหน้าคนงานชาวไทย ให้ที่พักพิงคนงานต่างด้าว และตั้งโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาต ส่วนการข่มขืนกระทำชำเรา จะต้องสอบสวนอย่างละเอียด และนำไปตรวจร่างกาย ก่อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับตัวไปดูแลเพื่อเยียวยาจิตใจก่อนให้ปากคำ