MGR Online - “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” มอบของขวัญปี 59 จัด 3 โครงการ ทั้งบริการแอปพลิเคชัน ช่วยประชาสัมพันธ์และแจ้งเรื่องร้องเรียนโดยใช้รหัสบัตรประชาชน ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึง, ตรวจสอบแนวเขตที่ดินของภาครัฐป้องกันการบุกรุกของชาวบ้านโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ผ่าน DSI MAP และแจ้งเตือนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่
วันนี้ (29 ธ.ค.) เวลา 09.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวเปิดเผยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติให้ทุกส่วนราชการจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ 2559 ให้กับประชาชน โดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจัดโครงการของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นการอำนวยความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายของรัฐบาลและเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานหลักในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมคดีพิเศษ ได้ดำเนินการให้บริการงานยุติธรรมเพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น จำนวน 3 โครงการ
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า 1. กรมสอบสวนคดีพิเศษจัดทำแอปพลิเคชันทำงานบนมือถือระบบแอนดรอยด์ ชื่อ DSI (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) เป็นช่องทางแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ข่าวภารกิจกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้ง เป็นช่องทางในการแจ้งเบาะแส ร้องเรียน ร้องทุกข์ เรื่องราวต่างๆ โดยจะมีการเพิ่มช่องทางการตรวจสอบสถานะคดีพิเศษ และสถานะเรื่องร้องเรียนใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นรหัสเข้าสู่ระบบ ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับกรมสอบสวนคดีพิเศษผ่านมือถือ และสามารถติดตามความคืบหน้าของเรื่องที่ตนยื่นไว้ รวมทั้งสามารถตรวจสอบสถานะของคดีต่างๆ ที่ตนเกี่ยวข้องได้ว่าการดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว อันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงความยุติธรรม และยังได้ระบุหมายเลขโทรศัพท์ของผู้บริหารหน่วยงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ด้วย นอกจากนี้ แอปพลิเคชันดังกล่าวพี่น้องประชาชนสามารถใช้บริการแบบเดียวกันผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ www.dsi.go.th ได้อีกทางหนึ่ง
“2. การตรวจสอบแนวเขตที่ดินเพื่อป้องกันตนเองมิให้บุกรุกที่ดินของรัฐ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้พัฒนาระบบแม่ข่ายแผนที่ผ่านอินเทอร์เน็ต DSI MAP เป็นนวัตกรรมในการตรวจสอบพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และยังเกิดประโยชน์กับประชาชนทั่วไปที่สามารถเข้ามาใช้โปรแกรมดังกล่าวได้ฟรีผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพียงมีพิกัดจีพีเอสของพื้นที่ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าพื้นที่นั้นอยู่ในเขตพื้นที่อะไร ซึ่งปัจจุบันการหาพิกัดจีพีเอสสามารถทำได้ง่าย ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ไอแพด เป็นต้น ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าว
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวต่อว่า DSI MAP สามารถตรวจสอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติและเขตอนุรักษ์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบพื้นที่การบุกรุกที่ดินของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาให้สามารถติดตั้งได้บนอุปกรณ์โทรศัพท์แบบ สมาร์ทโฟน ในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังการบุกรุกที่สาธารณะ เขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติได้อีกทางหนึ่งด้วย"
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวเพิ่มว่า 3. การแจ้งเตือนภัยประชาชนมิให้ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยมีรูปแบบการหลอกลวงให้เหยื่อสมัครเป็นสมาชิกเพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจที่คล้ายคลึงกับการธุรกิจแบบขายตรง แต่มีความแตกต่างกันตรงที่แชร์ลูกโซ่จะไม่เน้นการจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการโดยหลอกลวงว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง การใช้วิธีนำเงินของผู้ที่มีสมัครรายหลังๆ ไปจ่ายค่าตอบแทนให้คนที่สมัครรายแรกๆ และในเวลาต่อมาจะหยุดการจ่ายค่าตอบแทน ปิดกิจการและนำเงินที่ได้จากสมาชิกหนีไป ทำให้สมาชิกไม่ได้รับค่าตอบแทน เกิดความเสียหายลุกลามใหญ่โตในเวลาอันรวดเร็ว การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หากเป็นเรื่องที่มีความเสียหายในวงกว้าง หรือกระทำผิดซับซ้อนก็จะเป็นคดีพิเศษที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นคดีความผิดทางอาญาตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยปัจจุบันแชร์ลูกโซ่มีการเผยแพร่ระบาดทางอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวปิดท้ายว่า จากสถิติข้อมูลด้านคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีคดีพิเศษเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่อยู่ในความรับผิดชอบกว่า 112 คดี มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะ พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน มีมูลค่าความเสียหายกว่า 1,300 ล้านบาท อีกทั้งยังมีเรื่องที่อยู่ระหว่างการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกกว่า 292 คดี นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาได้จัดโครงการของขวัญปีใหม่ 2558 แจ้งเตือนภัยธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ทั่วประเทศ โดยมีภาคประชาชนเข้าร่วมงานรวมทั้งสิ้น 3,256 คน ซึ่งเป็นการบูรณาการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ด้วยการจัดกิจกรรมในการอำนวยความยุติธรรม ในรูปแบบของการเสวนาเพื่อแก้ไขปัญหาแชร์ลูกโซ่และหนี้นอกระบบ และทำอย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ พร้อมทั้งการออกบูธให้บริการประชาชนของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตลอดจนการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมป้องกัน แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ซึ่งเป็นการอำนวยความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
อย่างไรก็ตาม ปี 2559 กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการแจ้งเตือนภัยแชร์ลูกโซ่ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความรู้และเตือนภัยแก่ประชาชนเกี่ยวกับมหันตภัยแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเป็นการฉ้อโกงประชาชนประเภทหนึ่งที่ยากต่อการปราบปรามหรือกว่าที่ปราบปรามได้ ประชาชนก็ได้รับความเสียหายไปมากแล้ว กรมสอบสวนดีพิเศษจึงมีนโยบายในการเร่งรัดการดำเนินคดีแชร์ลูกโซ่ด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม ดังนั้น สิ่งสำคัญในการป้องกันและปราบปรามขบวนการแชร์ลูกโซ่ คือ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนมีความรู้เท่าทันและสามารถเฝ้าระวังภัยดังกล่าวในพื้นที่ของตนเองได้ด้วย โดยผู้เสียหายสามารถเข้าไปร้องเรียนกับหน่วยบริการประชาชนกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยตนเองหรือร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ของดีเอสไอ หรือ Call Centre 1202 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนในเบื้องต้นก่อนที่จะส่งต่อไปยังสำนักคดีที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป
