อัยการนำพยานชาวบังกลาเทศวัย 23 ปี ชาวประมง สืบพยานล่วงหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาปากแรก ศาลระบุห้ามญาติ-สื่อบันทึกและเผยแพร่คำเบิกความอย่างความเด็ดขาดเหตุกระทบต่อรูปคดี หากพยานอื่นรับทราบคำเบิกความ
ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้าฝ่ายอัยการโจทก์ คดีค้ามนุษย์โรฮีนจา หมายเลขดำ คม.27/2558, คม.28/2558, คม.29/2558 และ คม.32/2558 ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายบรรจง หรือจง ปองพล จำเลยที่ 1, นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง หรือเสี่ยโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล จำเลยที่ 29, พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 กับพวกซึ่งเป็นข้าราชการและพลเรือน เป็นจำเลยที่ 1-90 ซึ่งอัยการได้ทยอยฟ้องจำเลยตั้งแต่ เดือน ก.ค. 2558 ในความผิด 16 ข้อหา พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4, 6, 9, 10, 11, 13, 52, 53/1 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2546 มาตรา 3,5 ,6, 8, 25 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 62 , 64พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199, 270, 309, 312, 312 ทวิ, 312 ตรี, 313, 320, 371 ภายหลังจากที่ได้มีการโอนคดีจากศาลจังหวัดนาทวี มาพิจารณาคดีที่แผนกคดีค้ามนุษย์ของศาลอาญา เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2558 ที่ผ่านมา
โดยช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว พล.ต.มนัส คงแป้น พร้อมพวกจำเลยชายและหญิง จำนวน 90 ราย จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลางเพื่อมาฟังการสืบพยานโจทก์ล่วงหน้า ซึ่งอัยการโจทก์ได้นำนายมาหะหมัด ชายชาวบังกลาเทศ อายุ 23 ปี อาชีพประมงและรับจ้าง มาสืบพยานล่วงหน้าเป็นปากแรก
ทั้งนี้ การสืบพยานล่วงหน้า ศาลได้ถ่ายทอดโทรทัศน์วงจรปิดให้ญาติและสื่อมวลชนได้รับฟังการสืบพยานที่ห้องพิจารณา 701 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกเรียบร้อย โดยในห้องพิจารณาคดี 704 คงมีเพียงตัวจำเลย พยาน อัยการโจทก์ และทนายความ ซึ่งมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ รปภ.ดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด และในการฟังการสืบพยานล่วงหน้า ศาลได้ห้ามญาติ สื่อมวลชนบันทึกคำเบิกความและห้ามนำคำเบิกความออกเผยแพร่ซึ่งศาลได้เขียนข้อความติดประกาศไว้ที่หน้าห้องพิจารณาคดีด้วย
ด้านนางศศิรัศมิ์ ปราณีจิตต์ เลขานุการศาลอาญา กล่าวว่า วันนี้ได้สืบพยานล่วงหน้า ศาลให้ญาติและสื่อมวลชนเข้าฟังได้ แต่เนื่องจากห้องสืบพยาน 704 จะรองรับคนไม่เพียงพอ ศาลจึงจัดให้มีการถ่ายทอดเสียงและภาพการสืบพยานล่วงผ่านทีวีที่เปิดให้ญาติและสื่อมวลชนรับฟังที่ห้องพิจารณา 701 แต่ห้ามบันทึกคำเบิกความพยานและห้ามเผยแพร่คำเบิกความพยาน เนื่องจากหากพยานโจทก์ปากอื่นได้รับทราบถ้อยคำของพยานที่ได้เบิกความแล้วจะส่งผลกระทบและเกิดความเสียหายต่อรูปคดีและอาจมีการโต้แย้งประเด็นคำเบิกความของพยานได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีกฎหมายระบุเกี่ยวกับการสืบพยานทุกคดีไว้ ห้ามพยานซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกัน รับฟังการเบิกความเพราะจะส่งผลต่อรูปคดี ดังนั้น การสืบพยานจึงห้ามพยานที่จะต้องมาเบิกความ เข้าร่วมฟังการสืบพยาน ซึ่งคดีค้ามนุษย์นี้เป็นเรื่องที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ดังนั้นศาลจึงต้องย้ำเรื่องการห้ามบันทึกและห้ามเผยแพร่คำเบิกความอย่างเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสืบพยานล่วงหน้าวันนี้ เป็นนัดแรกจากพยาน 3 ปากชาวชาวบังกลาเทศ ชาวพม่า และชาวโรฮีนจา ที่อัยการโจทก์ได้แถลงต่อศาลขอสืบพยานล่วงหน้าในวันที่ 24-25 ธ.ค. 2558
