ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดนาทวี จ.สงขลา ได้อ่านคำสั่งของประธานศาลฎีกา ที่อนุญาตให้โอนคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ที่อัยการจังหวัดนาทวี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายบรรจง หรือจง ปองพล กับพวกซึ่งเป็นข้าราชการและพลเรือน รวม 72 ราย เป็นจำเลย เมื่อเดือน ก.ค. 58 รวมความผิด 16 ข้อหาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ มาดำเนินกระบวนพิจารณาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ว่า คดีค้ามนุษย์นี้ เมื่อนายตระกูล วินิจนัยภาค ขณะดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งให้ฟ้องจำเลย รวม 72 คนแล้ว ได้มอบหมายให้อัยการจังหวัดนาทวี ได้ยื่นฟ้องพวกจำเลยต่อศาลจังหวัดนาทวีแล้ว ต่อมาวันที่ 20 ส.ค. 58 อัยการจังหวัดนาทวี ได้ยื่นคำร้องถึงนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา (ขณะนั้น) ซึ่งมีอำนาจพิจารณาสั่งโอนคดี เพื่อขออนุญาตโอนคดีมาพิจารณาที่ศาลอาญา ด้วยเหตุตามกฎหมาย คือ 1.คดีเกี่ยวพันกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ 2.คดีมีเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากเกี่ยวข้องกระทำผิด 3.คดีอยู่ในความสนใจของประชาชน และนานาชาติ 4.พยานบางส่วนถูกข่มขู่ 5.พิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดนาทวีคับแคบอาจไม่เพียงพอต่อจำนวนจำเลยและทนายความที่ร่วมกระบวนพิจารณาคดี ขณะที่ศาลจังหวัดนาทวีก็มีคดีอื่นนอกเหนือจากคดีค้ามนุษย์ที่ต้องพิจารณาจำนวนมากเช่นกัน โดยอัยการโจทก์ มีพยานประมาณ 200 ปาก ซึ่งอาจส่งผลความล่าช้าต่อการพิจารณา และอาจกระทบต่อไม่สงบเรียบร้อย และความเที่ยงธรรม ดังนั้นจึงขอให้ประธานศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตโอนคดี ขณะที่ฝ่ายจำเลย ได้ยื่นคำร้องคัดค้าน
โดยศาลจังหวัดนาทวี รวบรวมเอกสารคำร้องทั้งหมดของอัยการและจำเลย เสนอประธานศาลฎีการับไว้เมื่อ 17 ก.ย. กระทั่งวันที่ 29 ก.ย.58 นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกาได้มีคำสั่งแล้วส่งคำสั่งมาให้ศาลจังหวัดนาทวี อ่านให้คู่ความรับทราบตามขั้นตอน
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวอีกว่าหลังจากที่มีคำสั่งให้โอนคดีมาพิจารณาที่ศาลอาญาแล้ว ศาลได้กำหนดนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐานคดี ในวันที่ 10-13 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. สำหรับจำเลย ศาลจังหวัดนาทวี ได้มีหนังสือแจ้งถึงเรือนจำนาทวี ให้โอนตัวจำเลยทั้งหมดมาควบคุมไว้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดีในศาลอาญานี้ด้วย
สำหรับคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาดังกล่าว เป็นจำเลยชุดแรกที่อัยการได้ยื่นฟ้อง ซึ่งส่วนของข้าราชการ มีพล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมเป็นจำเลยอยู่ด้วย
โดยขณะนี้ยังมีสำนวนค้ามนุษย์โรฮีนจา ชุดที่ 2 ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ด้วยหลังจากได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ในส่วนของศาลอาญา ก่อนหน้านี้ ได้เปิดทำการแผนกคดีค้ามนุษย์ แยกจากคดีอาญาทั่วไป เมื่อเดือน ส.ค.58 อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้เพื่อทำให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการแสวงหาข้อเท็จจริงจากที่มีผู้พิพากษาซึ่งเชี่ยวชาญดำเนินกระบวนพิจารณา ขณะที่แผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา ถือเป็นศาลแรกแห่งเดียว ที่เปิดพิจารณาคดีค้ามนุษย์
โดยศาลจังหวัดนาทวี รวบรวมเอกสารคำร้องทั้งหมดของอัยการและจำเลย เสนอประธานศาลฎีการับไว้เมื่อ 17 ก.ย. กระทั่งวันที่ 29 ก.ย.58 นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกาได้มีคำสั่งแล้วส่งคำสั่งมาให้ศาลจังหวัดนาทวี อ่านให้คู่ความรับทราบตามขั้นตอน
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวอีกว่าหลังจากที่มีคำสั่งให้โอนคดีมาพิจารณาที่ศาลอาญาแล้ว ศาลได้กำหนดนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐานคดี ในวันที่ 10-13 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. สำหรับจำเลย ศาลจังหวัดนาทวี ได้มีหนังสือแจ้งถึงเรือนจำนาทวี ให้โอนตัวจำเลยทั้งหมดมาควบคุมไว้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดีในศาลอาญานี้ด้วย
สำหรับคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาดังกล่าว เป็นจำเลยชุดแรกที่อัยการได้ยื่นฟ้อง ซึ่งส่วนของข้าราชการ มีพล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมเป็นจำเลยอยู่ด้วย
โดยขณะนี้ยังมีสำนวนค้ามนุษย์โรฮีนจา ชุดที่ 2 ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ด้วยหลังจากได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ในส่วนของศาลอาญา ก่อนหน้านี้ ได้เปิดทำการแผนกคดีค้ามนุษย์ แยกจากคดีอาญาทั่วไป เมื่อเดือน ส.ค.58 อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้เพื่อทำให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการแสวงหาข้อเท็จจริงจากที่มีผู้พิพากษาซึ่งเชี่ยวชาญดำเนินกระบวนพิจารณา ขณะที่แผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา ถือเป็นศาลแรกแห่งเดียว ที่เปิดพิจารณาคดีค้ามนุษย์