MGR Online - ผบ.ตร.เผยความคืบหน้าคดีคนแพร่แผนผังทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ตรวจสอบมือถือ-คอมพ์พบข้อมูลเข้าข่ายผิด ม.112 ด้วย เตือนประชาชนอย่าคะนองกดไลก์-แชร์ภาพหรือข้อความหมิ่นเหม่เพราะอาจติดร่างแหไปด้วย ส่วนกรณีทูตสหรัฐฯ ให้ความเห็นหมิ่นฯ หรือไม่กำลังตรวจสอบอยู่
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อนายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาเผยแพร่แผนผังทุจริตโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่ระบุว่ามีคนในรัฐบาลเกี่ยวข้องว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากนั้นตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ก็พบข้อมูลที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก็ต้องดำเนินคดีด้วย
“ย้ำว่าเราไม่ได้ดำเนินคดีซี้ซั้ว ฝากเตือนประชาชนถ้าเห็นข้อมูลข่าวสารที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่หรือผิดมาตรา 112 ขอให้พิจารณาดีๆ อย่าคึกคะนองกดแชร์ กดไลก์ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ เรื่องนี้ได้มอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ดูแล มั่นใจว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์เก่งข้อกฎหมาย ดำเนินคดีได้หมดอยู่แล้ว” ผบ.ตร.ระบุ
สำหรับความคืบหน้าคดีขบวนการแอบอ้างเบื้องสูง หาประโยชน์ ความผิดตามมาตรา 112 นั้น พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ.ในฐานะรองโฆษกตร.กล่าวว่า คดีนี้มีทั้งหมด 15 สำนวนคดี ส่งอัยการศาลทหารไปแล้ว 6 คดี อยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวนอีก 5 สำนวน คาดว่าจะส่งให้กองคดีอาญาทบทวนและเสนอคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นสถาบันฯ ของ ตร.ที่มี พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นประธานพิจารณาได้ต้นสัปดาห์หน้าก่อนให้ ผบ.ตร.มีความเห็นส่งสำนวนให้อัยการสั่งคดีต่อไป เบื้องต้นเท่าที่ทราบยังไม่มีผู้ต้องหาเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นตำรวจ โดยคดีนี้ ผบ.ตร.เร่งรัดติดตามอยู่ตลอดเพราะเป็นคดีสำคัญ
พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจมีการเชิญสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของนายกลิน ทาวเซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจหมิ่นเหม่เข้าฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้ยื่นจดหมายปิดผนึกผ่านฝ่ายธุรการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ให้ตรวจสอบว่าการออกมาแสดงความคิดเห็นของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ เมื่อมีการยื่นจดหมายปิดผนึกเข้ามาก็มีการรับเรื่องส่งเรื่องต่อให้กองบังคับการปราบปราม ซึ่ง บก.ป.รับเรื่องไว้แล้ว มีการทำหนังสือเชิญฝ่ายจัดงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าการพูดแสดงความเห็นที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศของนายกลิน เดวีส์ นั้นเข้าข่ายไม่เหมาะสมหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่จำเป็นต้องเชิญนายกลินมาให้ปากคำ เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบก่อนว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามที่มีจดหมายปิดผนึกเข้ามาหรือไม่ ส่วนประเด็นการมีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองหรือไม่นั้นต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน