โฆษก คสช.ปฏิเสธใช้เรื่องความมั่นคงและความผิดหมิ่นสถาบันเป็นเกราะ ยันจับ 2 ผู้ต้องหาเป็นไปตามหลักฐานความผิด ม.112 ม.116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะ “ฐนกร” หมิ่นสถาบันฯ ก่อนโพสต์ผังอุทยานราชภักดิ์
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีสื่อนำเสนอข่าวการจับกุมนายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ และนายธเนตร อนันตวงษ์ ผู้ต้องหา 2 คนในคดีความมั่นคงสาเหตุจากเผยแพร่ผังโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า การที่เจ้าหน้าที่มองว่าไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นอย่างบริสุทธ์ใจ มีลักษณะเข้าข่ายเจตนาเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จเชิงปรักปรำเพื่อให้ร้ายบุคคลอื่นมากกว่าความต้องการพื้นฐานในการอยากรู้เพื่อไขข้อสงสัย ซึ่งต่างจากคนอื่นทั่วไป ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่นเช่นกัน ในขณะที่ล่าสุดยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานไหนว่ามีเรื่องของการทุจริต จึงควรระมัดระวังในเรื่องการใช้ถ้อยคำ
ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหา 2 คนล่าสุดนั้น เกิดจากเจ้าพบหลักฐานว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ใช้โซเชียลมีเดียในลักษณะที่ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จมีผลทำให้บุคคลอื่นเสียหาย สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 กับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของผู้ต้องหาคนแรกนั้น พบว่าเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งสองคนมาเกี่ยวข้องเรื่องผังราชภักดิ์ และแม้ว่าพฤติกรรมในอดีตผู้ต้องหามีประวัติเคยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองมาเมื่อปี 2553 รวมทั้งเคยเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มนักศึกษาที่ต้องการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ด้วยก็ตาม พฤติกรรมดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกนำมาเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาครั้งนี้แต่อย่างใด
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า กรณีมีบางกลุ่มเรียกร้องให้ คสช.และทหารเลิกนำเรื่องความมั่นคงของชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเกราะเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบนั้นเป็นเพียงข้ออ้างหวังสร้างกระแสทำลายความน่าเชื่อถือเจ้าหน้าที่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการทำความผิดส่วนบุคคลตามข้อเท็จจริงของพยานหลักฐานที่ปรากฏ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการตรวจสอบโครงการฯ แต่อย่างใด เพราะระบบการตรวจสอบก็ยังคงดำเนินต่อไปเป็นปกติจากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายและเกี่ยวข้อง ไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันอย่างที่คนบางกลุ่มฯ พยายามจะบิดเบือน
โฆษก คสช.ยืนยันว่า การเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น ก็ได้กระทำอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาให้ตามลำดับความเร่งด่วน ไม่มีใครคิดจะปกปิดอะไรอย่างที่บางกลุ่มไปจินตนาการกันเอง
