MGR Online - รรท.รอง ผบ.ตร.เผยยังไม่ทราบข่าวเจ้าหน้าที่เดินทางไปรับตัว “เสธ.โจ้” จากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ส่งชุดสืบสวนเฝ้าติดตามพร้อมประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการออกหมายจับบุคคลเพิ่มเติมอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี-รังสิต พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงว่า สำหรับการขออนุมัติออกหมายจับผู้กระทำผิดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนผู้ที่จะถูกออกหมายจับเพิ่มเติมนั้นจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน เรื่องนี้ยังอยู่ในสำนวน หากมีการออกหมายจับก็จะทราบเอง สำนวนที่สมบูรณ์เสร็จไปแล้วจำนวน 1 สำนวน ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้ส่งสำนวนไปตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. หากมีการสั่งการอะไรมาก็จะทำตามคำสั่ง
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวว่ามีการเดินทางไปรับ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือ เสธ.โจ้ อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการ กองทัพภาคที่ 3 จากประเทศเพื่อนบ้านมาดำเนินคดี เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบข่าว ไม่อยู่ในสำนวน หลังจากมีการออกหมายจับไปก็ได้มีการประสานงานกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร เจ้าหน้าที่ทหาร กองกิจการพลเรือน รวมทั้งฝ่ายปกครอง ได้ประสานไปในทุกๆ หน่วยงาน ส่วนขณะนี้ เสธ.โจ้ยังอยู่ในประเทศพม่าหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ก็ได้จัดชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการประสานขอเข้ามอบตัวต่อทางการไทยยังไม่ได้รับรายงาน
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า สำนวนที่อยู่ในความรับผิดชอบขณะนี้มีจำนวน 13 สำนวน อีก 3 สำนวนอยู่ระหว่างรอกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) รวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนมาให้ โดย 1 สำนวนที่มีความสมบูรณ์ได้ส่งให้คณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นฯ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบแล้วอยู่ระหว่างการพิจารณาของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
“ตั้งแต่ได้รับสำนวนมา 12 สำนวน ได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 หมายจับ ใน 5 สำนวน โดยได้ออกหมายจับมาประมาณ 3-4 วันแล้ว เป็นพลเรือนที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ และได้กระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน คือ ได้กระทำผิดซ้ำในข้อหาเกี่ยวกับมาตรา 112 การออกหมายจับบุคคลเพิ่มเติมนั้นจะดูว่าหากมีพยานหลักฐานพาดพิงยืนยันชัดเจนก็จะมีการออกหมายจับก็จะดำเนินการไปตามอำนาจและหน้าที่ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นบุคคลใดเพราะยังอยู่ในสำนวน แต่ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือว่าสอบสวนเพิ่มเติมแล้วพบว่ามีส่วนร่วมหรือมีความเกี่ยวข้อง ส่วนการร้องทุกข์ใหม่ยังไม่ทราบ” รรท.รอง ผบ.ตร.กล่าว และว่าสำหรับการสอบสวนคดีทุจริตอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างการสอบสวนของกองทัพบก และยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตำรวจแต่อย่างใด