xs
xsm
sm
md
lg

ศาลให้ออกหมายจับ “กำนันเซี้ย” เบี้ยวฟังคำพิพากษาคดีฮั้วประมูล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายประชา โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซียะ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี (แฟ้มภาพ)
ศาลฎีกาเลื่อนฟังคำพิพากษาคดี “กำนันเซี้ย” กับพวกรวม 4 คนฮั้วประมูลก่อสร้าง ไป 22 ธ.ค.เวลา 09.00 น. พร้อมให้ออกหมายจับมาฟังคำพิพากษา หลังไม่มาศาลอ้างเหตุมีอาการป่วย ชี้มีพฤติการณ์หลบหนี

วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.4077/2546 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี้ย อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา น.ส.วรรณา ล้อไพบูลย์ คนสนิทนางเขมพร และนายถวิล สวัสดี (เสียชีวิตแล้ว) เป็นจำเลย ที่ 1-4 ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์, หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (ฮั้วประมูล)

โจทก์ฟ้องบรรยายพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างปี 2542-2544 จำเลยร่วมกันฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างต่างๆ ใน จ.กาญจนบุรี และเพชรบุรี หลายโครงการ กระทั่งเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2544 จำเลยที่ 4 พร้อม นายสมศักดิ์ ศรีสุข เลขานุการของกำนันเซียะ กับพวกอีกหลายคนที่ศาลอาญาพิพากษาลงโทษไปแล้วเมื่อปี 2546 ได้ร่วมกันกระทำความผิดข้อหาอั้งยี่ เข้าขัดขวางไม่ให้ บริษัท วัสดุเซ็นเตอร์ จำกัด เข้าเสนอราคา โดยได้กักตัวนายเดชา มาศวรรณา ตัวแทนบริษัทไว้ พร้อมเสนอให้รับเงิน 1 หมื่นบาท เพื่อไม่ให้เข้าร่วมการเสนอราคา แต่เมื่อนายเดชาไม่ยินยอม นายสมศักดิ์กับพวกได้ใช้กำลังประทุษร้าย ต่อมาจำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

สำหรับคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุกนายประชา หรือกำนันเซี้ย เป็นเวลา 5 ปี ฐานเป็นหัวหน้า หรือผู้มีตำแหน่งในอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรค 2 ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้จำคุกคนละ 4 ปี ฐานเป็นอั้งยี่ ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2550 ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด อัยการโจทก์ยื่นฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วย

ในวันนี้ นางเขมพร จำเลยที่ 2 เดินทางมาศาล ส่วนนายประชา จำเลยที่ 1 และน.ส.วรรณา จำเลยที่ 3 ได้มอบอำนาจให้ทนายความมาฟังคำพิพากษาแทน พร้อมแถลงต่อศาลว่าจำเลยที่ 1 ยังพักรักษาตัวอยู่เนื่องจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา และโรคหัวใจกำเริบ พร้อมกับมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน ส่วนจำเลยที่ 3 ทนายแถลงว่าไม่สามารถติดต่อได้

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยที่ 1 ขอเลื่อนฟังพิพากษานั้น ศาลไม่อนุญาต เนื่องจากจำเลยที่ 1 ได้รักษาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุมาเป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือนแล้ว ไม่ใช่อาการเจ็บป่วยจนถึงขนาดมาศาลไม่ได้ ถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ให้ออกหมายจับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 โดยนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งในวันที่ 22 ธ.ค. 2558 เวลา 09.00 น.และกำชับให้จำเลยทั้งหมดมาศาลตามนัด


กำลังโหลดความคิดเห็น