ศาลฎีกานักการเมืองนัดตรวจหลักฐานคดี “ยิ่งลักษณ์” โกงจำนำข้าวพรุ่งนี้ โดยอดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปศาลด้วยตนเอง ขณะที่อัยการ - ทนายจำเลย เตรียมพยานไว้ไต่สวนกว่า 100 ปาก
วันนี้ (28 ต.ค.) นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีรับจำนำข้าว กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ศาลกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน ในเวลา 09.30 น. เพื่อสรุปจำนวนพยานบุคคล และพยานเอกสารของฝ่ายอัยการโจทก์ และฝ่ายจำเลย ที่จะนำเข้าไต่สวนว่าแต่ละฝ่ายจะนำสืบเท่าใด ประเด็นอะไรบ้างพร้อมกำหนดวันนัดไต่สวนพยาน
โดยก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาฯได้ให้อัยการโจทก์ และทนายความร่วมกันตรวจดูพยานบุคคล และพยานเอกสารกันเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะนำเสนอให้ศาลฎีกาฯพิจารณาในวันพรุ่งนี้
นายนรวิชญ์ ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในการตรวจบัญชีจัดพยานบุคคลที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายอัยการโจทก์และฝ่ายจำเลย มีพยานรวมกันกว่า 100 ปาก ส่วนพยานเอกสารมีจำนวนมากโดยทั้งสองฝ่ายได้จัดทำบัญชีลงหมายเลขเอกสารของแต่ละฝ่ายไว้ โดยพรุ่งนี้ต้องให้ศาลฎีกาฯพิจารณาอีกครั้งเพื่อสรุปว่าให้อัยการโจทก์ และฝ่ายจำเลย นำพยานบุคคลและเอกสาร เข้าไต่สวนฝ่ายละเท่าใด โดยพร้อมไปศาลเพื่อเข้าสู่กระบวนพิจารณาคดี
สำหรับคดีจำนำข้าวนั้น นายตระกูล วินิจนัยภาค ขณะดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2558 ซึ่งศาลฎีกาฯ ประทับรับฟ้องเป็นหมายเลขดำ อม. 22/2558 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามความผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และ 123/1 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลให้รัฐได้รับความเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท