xs
xsm
sm
md
lg

ปส.ผสานกำลังปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติด รวบ 16 ผู้ต้องหาค้ายา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ปส.สานกำลังหน่วยงานกระทรวงยุติธรรมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติด 32 แห่งทั่วประเทศ จับผู้ต้องหา 16 ราย ยาบ้า 3 แสนกว่าเม็ด

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน รอง ผบช.ปส., ป.ป.ส., ปปง. และกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวการปิดล้อมตรวจค้นขบวนการยาเสพติดรายสำคัญตามปฏิบัติการขุดรากถอนโคนขบวนการค้ายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 3 ตรวจค้นเป้าหมาย 30 เป้าหมาย จุดตรวจค้น 32 จุดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 16 คน พร้อมของกลางยาบ้า 322,000 เม็ด

พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการให้ บช.ปส.ดำเนินการร่วมกับ ปปง. กรมราชทัณฑ์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิบัติการขุดรากถอนโคนขบวนการค้ายาเสพติดได้ผลเป็นที่น่าพอใจระดับนึง แต่ยังต้องการความร่วมมือของตำรวจนครบาล ตำรวจภูธร และฝ่ายปกครอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนลงมาช่วยสอดส่องเพราะหากยังมีเยาวชน และยังมีความต้องการยาเสพติดอยู่ ก็คงไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ

“ปัญหายาเสพติดในเยาวชนถ้าเราไม่เร่งบำบัดรักษา ผู้ค้าก็จะเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด ลำพังแค่กำลังเจ้าหน้าที่ก็จะปราบปรามกันไม่หวาดไม่ไหว ทางครอบครัว โรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกัน ในขณะนี้ทางพื้นที่ที่เป็นป่าซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าต่างๆ เราสามารถจับกุมได้เป็นจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับกระทรวงยุติธรรมได้นำแนวทางโครงการปลูกผัก การเกษตรกรรม ให้ชาวเขาที่รัฐฉานซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงที่เคยมีการปลูกฝิ่น กัญชา เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ชาวบ้านสร้างรายได้กับการเกษตรกรรมเพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเมื่อได้ผลผลิตจะมีหน่วยงานรับซื้อเพื่อนำสู่ท้องตลาด เพื่อให้ครอบครัวชาวบ้านมีรายได้ ซึ่งปลายเดือนนี้จะมีการขึ้นไปติดตามโครงการดังกล่าว” พล.ต.ท.เรวัชกล่าว

พล.ต.ท.เรวัชกล่าวต่อว่า ในปีนี้ต้องเน้นการแก้ปัญหายาเสพติดไปที่ชุมชน เพราะครอบครัวมีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ปัญหาการติดยาในเยาวชนลดลง หรือหมดไป ทางหน่วยงานด๋ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือ การบำบัดสำหรับผู้เสพรายย่อย และมองว่าการช่วยเหลือโดยนำไปบำบัดรักษาจะช่วยให้ไม่กลับมาทำซ้ำอีก เพราะการนำผู้ต้องหารายย่อย เข้าไปในเรือนจำจะเป็นการเปิดโอกาส ให้รู้จักกับผู้ต้องหารายใหญ่กลายเป็นผู้ค้าในที่สุด โดยเฉพาะแนวนำบำบัดรักษาจะมีการตั้งศูนย์บำบัดทุกอำเภอทุกจังหวัด ทั้งนี้ยังได้ประสานงานกับ ปปง.ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ค้า เพื่อปิดกั้นไม่ให้ผู้ค้าที่หลบหนีการจับกุมมีโอกาสใช้เงินได้ซึ่งในอนาคตจะทำให้ผู้เสพลดลงอย่างแน่นอน


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น