xs
xsm
sm
md
lg

“พงศพัศ” เยี่ยมสาวเหยื่อกระสุนตำรวจ พามือยิงขอโทษ-เสนอเปลี่ยนรถให้ใหม่(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
รอง ผบ.ตร.พร้อมรักษาการ ผบช.น.นำตำรวจมือลั่นกระสุนปริศนา หิ้วกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยม “น้องวาว” ที่ รพ.นพรัตนราชธานี พร้อมขอโทษ ยอมรับเพิ่งเข้ามาทำงานปราบปรามยาเสพติด จะระมัดระวังให้มากขึ้น เตรียมถามความสมัครใจจะให้ซ่อมรถให้หรือเปลี่ยนคันใหม่ ด้านสาวเหยื่อกระสุนเล่นมุกกลับ ให้ไปฝึกยิงปืนให้แม่น พร้อมย้ายไปรักษา รพ.กรุงเทพ ตามที่แม่ต้องการ


ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (9 ต.ค.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 ส.ต.ต.ปณณธร ชยธรรม ผบ.หมู่ ป.สน.นิมิตรใหม่ ช่วยราชการชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติงานล่อซื้อยาเสพติดที่ลั่นไกปืน 1 นัดถูก น.ส.อานัตตา สงฆ์รัตน์ อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงาน 4 นายได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของ น.ส.อานัตตา ที่พักรักษาอาการบาดเจ็บภายในห้องพักฟื้น โดยนำกระเช้าดอกไม้พร้อมของเยี่ยมมามอบให้แก่ น.ส.ฐิติยา สงฆ์รัตน์ อายุ 48 ปี มารดา เพื่อแสดงความเสียใจ และขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ในนามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนที่ดูแลการทำงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำหรับเหตุการณ์ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จากการตรวจสอบล่าสุดจนถึงเมื่อเช้านี้ก็พบว่ากระสุนปริศนาเกิดจากการยิงของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ที่ได้ลงไปทำงานในพื้นที่ ก่อนที่จะสรุปก็ได้ตรวจสอบเหตุการณ์อื่นๆ โดยรอบพื้นที่ในเวลานั้นเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เกิดกระสุนนัดนี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็ได้ดำเนินการแล้วก็สรุปทุกอย่างทุกประเด็น ในที่สุดก็สรุปได้ว่ากระสุนนัดนี้เกิดจากการลั่นไกระหว่างการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ปฎิบัติงานที่ได้ลงไปทำงานในพื้นที่ ส.ต.ต.ปณณธรก็ได้ทำงานปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว ก็เพิ่งได้มาทำงานเกี่ยวกับการปราบปรามด้านยาเสพติด ซึ่งการทำงานด้านยาเสพติดทางเจ้าหน้าที่ก็ตระหนักดีว่าต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า กรณีนี้ได้มีการไปล่อซื้อ เกิดการหลบหนีต่อสู้ทำให้ ส.ต.ต.ปณณธรตัดสินใจใช้อาวุธปืนในการป้องกันตัวไป 1 นัด บังเอิญกระสุนนัดนี้ไปโดนน้องแวว ในทางคดี ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ ผบช.น. ขณะนี้ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจไปลงประจำวันต่างๆ ไว้ เพียงแต่กระบวนการการแจ้งข้อกล่าวหาจะรอการผ่าเอากระสุนที่ยังอยู่ในตัวของน้องวาวออกมาเปรียบเทียบกับอาวุธปืนที่ใช้ยิง จากนั้นก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาดำเนินคดีซึ่งจะทำอย่างตรงไปตรงมา ทาง ผบช.น.ก็จะเป็นผู้ควบคุมดูแลในกระบวนการนี้ว่าทำไปโดยชอบหรือไม่อย่างไร การปฏิบัติงานได้สั่งให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดทั้ง 5 นายของ บก.น.3 มาช่วยราชการที่บช.น. ให้ปฏิบัติหน้าที่นี้ไปก่อนระหว่างรอการสอบสวน ส่วนมาตรการในการเยียวยาก็จะดำเนินการเรื่องรักษาอาการของน้องแววก่อน ส่วนด้านอื่นๆ ก็จะเยียวยาจะดำเนินการต่อเมื่อน้องแววหายดี

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเรื่องรถที่ได้รับความเสียหายทาง พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า จะต้องพิจารณาว่าจะซ่อมกระจกที่ได้รับความเสียหาย หรือจะดำเนินการเปลี่ยนรถคันใหม่ให้ แต่ต้องถามความสมัครใจของคุณแม่ของน้องด้วย

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า ข้าราชการตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาตินอกจากจะเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากจะมาขอโทษ ขออภัยคุณแม่ ครอบครัวและน้องแวว ไม่อยากให้กระทบต่อการเรียนของน้องวาว สิ่งที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะเป็นอะไรก็ตามแต่ มันไม่ควรจะเกิดขึ้นในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และจะระมัดระวังอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก

น.ส.ฐิติยากล่าวว่า ตอนนี้คิดแต่เรื่องลูก อยากให้ลูกปลอดภัย ให้อาการลูกดีขึ้น ทำให้ดีที่สุดเพื่อลูก ตอนนี้ไม่ขอพูดเรื่องคดีนี้ก่อนว่าจะติดใจหรือไม่ เพราะกำลังปวดท้อง ยังคงมีความเครียดและกังวลเรื่องลูกอยู่ ขอบคุณทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มาแสดงความรับผิดชอบในวันนี้ แต่เรื่องอื่นยังไม่ขอตอบเพราะยังไม่พร้อม

ส.ต.ต.ปณณธรกล่าวว่า เสียใจ อยากจะขอโทษน้อง และขอโทษคุณแม่ด้วย อยากจะขอให้อภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนการทำงานในอนาคตคงไม่กระทบเพราะจะปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

ด้านนายแพทย์อุทัย ตัณศลารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เปิดเผยอาการของ น.ส.อานัตตา ว่าอาการของน้องแววดีขึ้น มีเลือดออกจากปอดน้อยลงแล้ว มีกำลังใจที่ดีมาก

ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน รถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินจากโรงพยาบาลกรุงเทพได้มารับ น.ส.อานัตตา เพื่อไปรักษาอาการบาดเจ็บต่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ตามความประสงค์ของ น.ส.ฐิติยา ผู้เป็นแม่

พล.ต.ต.ศานิตย์เปิดเผยว่า การเข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.อานัตตา ส.ต.ต.ปณณธรได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขออภัย น.ส.อานัตตา ซึ่ง น.ส.อานัตตาก็ได้ให้อภัย ส.ต.ต.ปณณธร และยังบอกอีกด้วยว่าให้ไปฝึกเรียนยิงปืนเพิ่มจะได้ยิ่งปืนแม่นกว่านี้อีกด้วย ซึ่ง น.ส.อานัตตามีกำลังใจดีมาก

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีกระสุนปริศนายิงใส่รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีขาว ทะเบียน กฉ 4255 จันทบุรี บริเวณกระจกหน้าด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสาร โดยมี น.ส.ฐิติยา สงฆ์รัตน์ อายุ 48 ปี เป็นคนขับ ซึ่ง น.ส.อานัตตา สงรัตน์ อายุ 16 ปี บุตรสาว เรียนอยู่ชั้น ม.4 รร.บดินเดชา สิง์ สิงหเสนี 2 ได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่ขวา ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ลงไปดูแลแล้ว โดย พล.ต.อ.พงศพัศ ได้มีการรายงานมาถึงตนแล้วยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้บาดเจ็บหรือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเมาสุราแล้วยิงปืนตนสั่งให้ออกจากราชการแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด เราไม่เคยไปประมาทอยู่แล้ว การใช้อาวุธปืนมีการควบคุม แต่เมื่อเกิดเรื่องอะไรก็ตามตนก็พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ หากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเจตนาไม่ดีของตำรวจ มีการรีดไถ ทำร้ายร่างกายแล้วเกิดยิงปืนขึ้นมา ตนไม่เอาไว้อยู่แล้ว ต้องมาดูว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำงานจริงหรือไม่ มีการล่อซื้อยาเสพติดจริงหรือไม่ ต้องดูเหตุผล ขอเวลาตรวจสอบ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการพูดคุยกับทางญาติคนเจ็บเรียบร้อยแล้ว ส่วนการเยียวยาจะดูแลให้เต็มที่ วันนี้ก็ได้เรียกชุดสืบสวนทั้งหมดจาก บก.น.3 มาพูดคุยแล้ว ตนเชื่อว่าหากไม่มีเรื่องอื่น ๆ พล.ต.อ.พงศพัศ และพล.ต.ต.ศานิตย์ จะจัดการได้อย่างแน่นอน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดีอาจจะเรียกมาช่วยราชการก่อน และตั้งกรรมการสอบสวน

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันในพื้นที่ สน.บางชัน มาแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตำรวจคนนี้เป็นแค่สิบตำรวจตรี เป็นตำรวจมาแค่ 3 ปี แต่มีความตั้งใจ ดูเรื่องความตั้งใจและเจตนาจะดีกว่า เขาไม่ได้เจตนาไปทุจริตหรือไม่รีดทรัพย์จากพวกค้ายาเสพติด ก็ต้องให้โอกาสด้วย ทั้งนี้ รับรองว่าตนไม่มีการปกป้อง เรื่องยุทธวิธีเรามีการฝึกมาตลอด เพียงแต่สถานณการณ์ขณะนั้นมันรวดเร็ว และตำรวจมีประสบการณ์น้อย เราต้องมีการกลับมาทบทวนการใช้อาวุธและการใช้อารมณ์ของตำรวจ

เมื่อถามว่า หากผู้เสียหายมีการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายหน่วยงานจะมีช่วยเหลือหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องมีการสอบถามก่อนว่าความประพฤติของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวเป็นอย่างไร หากเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตนก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว ทั้งเรื่องเงินและเรื่องอื่น ๆ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนก็ไม่ได้มีรายได้เยอะ เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่ต้องดูแล หากไปทำนอกลู่นอกทางตนก็ไม่ช่วยเหลือ ตนต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น