กองบัญชาการตำรวจนครบาลแถลงข่าวชี้แจงกรณีกระสุนปืนปริศนาเจาะทะลุร่างเด็กหญิงวัย 16 ปี บาดเจ็บสาหัส ย่านบางชัน ด้านตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สน.บางชัน เข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยอมรับเป็นคนยิงปืนในวันเกิดเหตุ เพื่อป้องกันตัวขณะทำล่อซื้อยาเสพติดกับคนร้าย พร้อมขอความเป็นธรรม ยืนยันไม่มีเจตนา ด้าน ผบช.น.ระบุยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างรอผลตรวจเทียบชนิดหัวกระสุนปืนเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ หากใช่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.3 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 ร่วมกันชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวลาประมาณ 20.00 น.ที่ผ่านมา บริเวณริมถนนสวนสยาม หน้าห้างอมรินี่ แขวงและเขตบางชัน กทม. มีกระสุนปืนปริศนาพุ่งเข้าใส่หน้ากระจกรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 4255 จันทบุรี โดยมีนางฐิติยา สงรัตน์ อายุ 48 ปี เป็นคนขับ กระสุนดังกล่าวถูก ด.ญ.อานัตตา สงรัตน์ อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า โดยเมื่อช่วงเช้าได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตน์ถึงอาการของ ด.ญ.อานัตตา ทราบว่าอาการดีขึ้นมาก ยังมีหัวกระสุนที่อยู่ภายในร่างกาย ฝังอยู่บริเวณหลังฝั่งขวา อาจจะใช้เวลา 2-3 วันในการดูอาการ หากน้องมีอาการปกติจะเขี่ยหัวกระสุนออกมา เพราะถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด
ส่วนในเรื่องการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับว่าให้เร่งรัดดำเนินการเพราะเป็นคดีที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น และเป็นเรื่องราวที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากขับรถไปบนท้องถนนแต่กลับมีกระสุนปืนพุ่งเข้ามาที่รถในลักษณะที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาทางตำรวจก็ได้ดำเนินการมาต่อเนื่องโดยรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน อีกทั้งต้องตรวจสอบโดยละเอียดถึงในช่วงเวลาที่เกิดเหตุว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
ด้าน พล.ต.ต.ศานิตย์กล่าวว่า เบื้องต้นตั้งข้อสงสัยหลายจุดหลายประเด็น โดยในระหว่างที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่ผู้กระทำความผิดนั้น ได้รับแจ้งจาก ผบก.น.3 ว่า ส.ต.ต.ปณณธร ไชยญาธรรม ผบ.หมู่.ป.สน.นิมิตรใหม่ ช่วยราชการ บก.น.3 ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจในกรณีดังกล่าว โดยขอเข้ามาชี้แจงรายละเอียดต่อผู้บังคับบัญชาว่า ในวันที่เกิดเหตุมีชุดปราบปรามยาเสพติดทำการล่อซื้อยาเสพติดในบริเวณดังกล่าว แต่คนร้ายไหวตัวทันจึงเกิดการต่อสู้ ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวเท่านั้น และในวันต่อมาจึงได้ทราบข่าวว่ามีกระสุนปืนปริศนายิงโดนเด็กหญิงวัย 16 ปี ซึ่ง ส.ต.ต.ปณณธรได้นำอาวุธปืนมามอบให้ตรวจสอบ ไม่ทราบว่าลูกกระสุนของตนไปโดนน้องหรือไม่ ในขณะนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ขั้นตอนแรกจะต้องรอให้แพทย์ที่รักษาน้องผ่าเอาหัวกระสุนออกมาเพื่อไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการเปรียบเทียบว่ากระสุนปืนจากเจ้าหน้าที่กับหัวกระสุนในตัวน้องนั้นเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ หากพบว่าใช่จะต้องเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นจะมีการดำเนินการกับน้องอย่างไร พล.ต.ต.ศานิตย์กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามกระบวนการและตามหลักฐาน ยังไม่ทราบว่ากระสุนปืนในตัวของ ด.ญ.อานัตตาเป็นชนิดเดียวกับที่เจ้าหน้าที่เอามามอบให้หรือไม่ เบื้องต้นจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายมาช่วยราชการที่ ศปก.น.ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวมีเหตุการณ์อย่างไรบ้าง ส.ต.ต.ปณณธรกล่าวว่า เป็นการล่อซื้อยาเสพติด ระหว่างที่เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุม ผู้ต้องหาไหวตัวทันจึงชักอาวุธปืนมายิงต่อสู้และหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงชักอาวุธปืนขึ้นมายิงป้องกันตัวเอง ไม่ได้มีเจตนาที่จะยิงใส่ ด.ญ.อานัตตา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมืด ส่วนเจ้าหน้าที่ทราบได้อย่างไรว่าคนร้ายชักอาวุธปืนขึ้นมายิง พล.ต.ต.ศานิตย์กล่าวว่า ดูจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
ด้าน ส.ต.ต.ปณณธรกล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุตนยิงจริงๆ เพื่อป้องกันตัวเองและทีมงาน อย่างที่ทราบกับว่างานด้านยาเสพติดเป็นงานที่เสี่ยงอันตราย จึงอยากขอความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และพร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ หากหัวกระสุนในตัวน้องเป็นกระสุนชนิดเดียวกับอาวุธปืนของตน ตนพร้อมจะรับผิดชอบ เรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจ และกราบขออภัยครอบครัวและตัวน้อง โดยพร้อมที่จะไปเยี่ยมและดูแลน้อง
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำสายตำรวจมาด้วยเพื่อเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ได้มีการทำงานด้านยาเสพติดจริง สื่อมวลชนสามารถซักถามในขอบเขตได้ เพราะสายเป็นคนชี้เป้า คนที่ล่อซื้อเป็นสายให้ตำรวจและมีตัวตนจริง ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง มีตำรวจที่ยิงปืนจริง แต่การดำเนินคดีจะต้องนำหัวกระสุนปืนในตัว ด.ญ.อานัตตามาตรวจสอบก่อนว่าเป็นหัวกระสุนปืนชนิดเดียวกับที่เจ้าหน้าที่เอามามอบให้หรือไม่ ในส่วนนั้นจะเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนในการแจ้งข้อหาและดำเนินคดีต่อไป