“ชัจจ์ กุลดิลก” มอบตัว หลังเบี้ยวฟังคำพิพากษาหมิ่น “บิ๊กอ๊อด” อดีต ผบ.ตร.อ้างเหตุป่วย ศาลงดปรับนายประกัน และให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้หลักทรัพย์เดิม 5 หมื่นบาทประกันตัว นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 11 พ.ย.นี้
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อศาลอาญา ภายหลังที่ศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ชัจจ์ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำ อ.1396/2556 ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. เป็นโจทก์ฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ที่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อปี 2556 ทำนองว่า พล.ต.อ.สมยศโจทก์เป็นคนไม่ดีและใช้อำนาจในทางที่ผิด หลังจากที่ พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลยได้แสดงตัวต่อศาลแล้วพร้อมขอให้ศาลงดการปรับนายประกัน ศาลจึงได้มีคำสั่งยกเลิกหมายจับ โดยให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลยมาฟังคำพิพากษา 11 พ.ย.นี้ตามกำหนดเดิม และ พล.ต.ท.ชัจจ์ได้รับการปล่อยชั่วคราวใช้หลักทรัพย์เดิมจำนวน 5 หมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2556 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20-25 ม.ค. 2556 พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยมีเจตนาให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี และใช้อำนาจในทางที่ผิด และข้อความอื่นอันล้วนเป็นเท็จ และ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันที่ 25 ม.ค. 2556 นำไปตีพิมพ์ ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด และให้โฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ด้วย
พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวภายหลังว่า ตนเองไม่มีเจตนาหลบหนี แต่มีอาการป่วยและเพิ่งผ่าตัดเนื้อร้ายที่เตรียมจะลามเป็นมะเร็งออกไป และเมื่ออาการดีขึ้นก็รีบเข้าแสดงตัวต่อศาล พร้อมขอให้ศาลงดปรับนายประกัน พร้อมยื่นขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เดิมเป็นเงินสด 5 หมื่นบาท โดยศาลเมตตาอนุญาตให้ประกันตัวได้ งดปรับนายประกัน และนัดฟังคำพิพากษาตามนัดเดิมวันที่ 11 พ.ย.นี้ และยืนยันว่าจะเดินทางมาศาลตามนัด ส่วนอาการป่วยนั้นขณะนี้ยังต้องพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำ
เมื่อถามถึงกรณีที่มี สภาการขับเคลื่อนประเทศ สปท. ที่มาจาก นปช. ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจะผลักดัน เรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อการปรองดองมวลชนแต่ไม่รวมถึงกลุ่มแกนนำ นปช. พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ตนเห็นว่าถ้าสามารถทำได้จริงจะถือเป็นเรื่องดีที่จะนำไปสู่การปรองดองได้ ส่วนถ้าเป็นการทำผิดกฎหมายก็คงไปกระทำไม่ได้ แต่ถ้าไม่ผิดกฎหมาย แต่เป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตยและความคิดก็ต้องมีการนิรโทษกรรมไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือแกนนำ นปช.
เมื่อถามว่าดูจากรายชื่อ สปท.หลายคนนั้นมีมาจากทั้งพรรคเพื่อไทย หรือ นปช.เดิม จะทำให้เกิดความขัดแย้งกันหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ทางพรรคเพื่อไทยประกาศว่าคนจะเป็น สปท.ต้องลาออกจากพรรค และ นปช.เคยประกาศว่าหากใครไปร่วม สปท.จะไม่ยุ่งเกี่ยวถึงขั้นไม่เผาผีกัน พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ปัจจุบันตนไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารในพรรคเพื่อไทยแล้ว และไม่ทราบว่าใครเข้าไปเป็นสมาชิก สปท.บ้าง แต่เห็นว่าการเมืองเป็นการทำเพื่อชาติ ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนก็ต้องช่วยกันพัฒนาประเทศ ไม่ใช่อ้างเหตุมาอาฆาตมาดร้ายกัน ส่วนที่ นปช.บอกว่าจะไม่เผาผีกันก็คงไม่ถึงขนาดนั้นเพราะเป็นเรื่องของแนวความคิดเห็นส่วนตัว