ตำรวจกองปราบรวมตัวสาวนครสวรรค์ได้ที่สระบุรี หลังก่อเหตุหลอกลวงชาวบ้าน อ้างรู้จักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ฝากเข้าทำงาน อบต. ได้ เรียกค่าดำเนินการคนละ 4 แสน มีผู้หลงเชื่อจ่ายเงินให้หลายราย แล้วย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ก่อนจนมุม ให้การภาคเสธ อ้างเป็น ขรก. ซี 5 เทศบาลนครสวรรค์ ไม่ได้ทำผิด แค่ยืมเงินเพื่อนแล้วไม่ใช้คืน เลยถูกแจ้งความ
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม น.ส.หัทยา ทัพกฤษณ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/25 ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงลพบุรี ที่ จ.29/2558 ลงวันที่ 9 เมษายน 2558 ข้อหาฉ้อโกง จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถวัดโขมด ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี
สืบเนื่องจาก น.ส.หัทยา มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายที่อยากเข้ารับราชการ ว่า รู้จักกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ สามารถช่วยเหลือฝากให้เข้ารับราชการในสังกัด อบต. แห่งหนึ่ง ได้ แต่มีค่าใช้จ่ายจำนวน 4 แสนบาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แล้ว กลับไม่ได้เข้ารับราชการตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ต่อมาผู้เสียหายได้พยายามทวงถาม แต่กลับได้รับคำตอบว่า สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ จึงไม่สามารถเดินเรื่องให้ได้ หลังจากนั้น ก็ไม่สามารถติดต่อกับทางผู้ต้องหาได้อีก
จากการตรวจสอบข้อมูลของชุดสืบสวน ยังพบว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วในหลายพื้นที่ และเมื่อได้รับเงินจากเหยื่อ ก็จะย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่แถบภาคกลางหลายจังหวัด เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามของผู้เสียหายแต่ละราย ที่ผ่านมา มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อแล้วนับสิบราย รวมมูลค่าเสียหายหลายล้านบาท ผู้เสียหายได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไว้ที่ สภ.เมืองลพบุรี กระทั่งศาลได้ออกหมายจับ
ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จึงวางแผนติดตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าเป็นอดีตข้าราชการ ระดับ 5 (ซี5) สังกัดเทศบาลนครสวรรค์ และไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ส่วนที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับตนนั้น สาเหตุน่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ตนได้ยืมเงินเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง แต่ไม่มีเงินคืนให้ หลังจากนั้นก็ได้ย้ายที่อยู่ และถูกให้ออกจากราชการเพราะขาดงานติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยจากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีและมีการถอนแจ้งความไปแล้วบางส่วน ซึ่งชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป