นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามกรณีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบว่าในวันที่ 18 ม.ค.นี้ทางนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องการข้อมูลในส่วนใดบ้าง แต่คาดว่าคงจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนของการเสนอชื่อ ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ มีข้อมูลพร้อม เพราะการดำเนินการต่างๆนั้นทางคณะสงฆ์จะยึดหลักตามพระธรรมวินัย กฎหมายและจารีตประเพณี ซึ่งในการเสนอชื่อสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ก็ดำเนินการตามขั้นตอนในลักษณะเดียวกัน คือมหาเถรสมาคม (มส.) เสนอชื่อไปยังรัฐบาลเพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ขณะเดียวกันการให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันชัดเจนว่าการเสนอชื่อต้องมาจากมหาเถรสมาคมเสนอชื่อมายังรัฐบาลและในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ทางคณะกรรมการติดตามกรณีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 จะประชุมกันเพื่อติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อีกครั้ง
นายชยพลกล่าวด้วยว่า ช่วงที่ผ่านมาทางสำนัก งานพระพุทธศาสนาฯ ได้รวบรวมข้อมูลคำกล่าวหาต่างๆ รวมทั้งภาพที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ทางสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เพื่อหาทางดำเนินการทางกฎหมายเนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาทและเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ม.14 (1) (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน แต่เมื่อนำข้อมูลต่างๆเข้าหารือกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพื่อให้ท่านมอบอำนาจให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯไปดำเนินการทางกฎหมาย ท่านก็แจ้งมาว่า “ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องไปทำอะไรเขาหรอก” ขณะเดียวกัน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ยังให้องค์กรทางพระพุทธศาสนาบางแห่งที่ไปแจ้งความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไว้แล้วให้ถอนแจ้งความด้วย
นายชยพลกล่าวด้วยว่า ช่วงที่ผ่านมาทางสำนัก งานพระพุทธศาสนาฯ ได้รวบรวมข้อมูลคำกล่าวหาต่างๆ รวมทั้งภาพที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ทางสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เพื่อหาทางดำเนินการทางกฎหมายเนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาทและเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ม.14 (1) (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน แต่เมื่อนำข้อมูลต่างๆเข้าหารือกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพื่อให้ท่านมอบอำนาจให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯไปดำเนินการทางกฎหมาย ท่านก็แจ้งมาว่า “ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องไปทำอะไรเขาหรอก” ขณะเดียวกัน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ยังให้องค์กรทางพระพุทธศาสนาบางแห่งที่ไปแจ้งความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไว้แล้วให้ถอนแจ้งความด้วย