ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านเข้าร้องสื่อ ตำรวจสงขลาปล่อยผู้ทำผิดลักพาตัวก่อนทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนบาดเจ็บสาหัสก่อนหนีลอยนวล เจ้าทุกข์รอไม่ไหวโร่แจ้งศูนย์ดำรงธรรม ก่อนร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวไปยัง ผบ.ตร.เพื่อขอความเป็นธรรมหลังคดีไม่คืบ
วันนี้ (2 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ฐิติภัทร จิณะสิทธิ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อาชีพแม่บ้าน พร้อมด้วย นายสังเวียน จิณะสิทธิ์ แม่ และตา ของ ด.ช.พิชวัฒน์ จิณะสิทธิ์ ได้เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ผ่านผู้สื่อข่าวในกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ และ ส.ภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยได้นำหลักฐานการแจ้งความที่ สภ.ทุ่งลุง และหนังสือขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา และภาพถ่ายของ ด.ช.พิชวัฒน์ ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายซี่โครงหัก 2 ซี่ ศีรษะแตก และมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.หาดใหญ่)
โดย น.ส.ฐิติภัทร ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสารทเดือนสิบ ได้พาครอบครัวไปทำบุญที่วัดหาดใหญ่ใน ต่อมา ด.ช.พิชวัฒน์ ลูกชายอายุ 14 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนกิตติวิทย์ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนให้ไปพบที่โรงเรียน ตนจึงเดินทางกลับบ้านพักไปก่อน
ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น. เพื่อนของลูกชายได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า มีคนร้าย 2-3 คน ใช้รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาจอดที่โรงเรียน และจับตัว ด.ช.พิชวัฒน์ ขับหลบหนีไปบนถนนสายกาญจนวณิชย์ มุ่งหน้าไปยัง อ.สะเดา จึงได้พร้อมกับนายสังเวียน และญาติๆ ติดตามไปยังโรงเรียนกิตติวิทย์ และได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.วิทูร ชุณหศิลป์ ร้อยเวร เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ในการติดตามตัว
เพราะตนทราบว่า ผู้ที่จับ ด.ช.พิชวัฒน์ ไป เป็นนายเชษฐ์ หนูเกื้อ ซึ่งเป็นพ่อค้าสุรา อยู่ที่บ้านต้นพะยอม ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีการส่งคนมาข่มขู่จะฆ่านายสังเวียน ตาของ ด.ช.พิชวัฒน์ เนื่องจากนายเชษฐ์ โกรธที่ ด.ช.พิชวัฒน์ มีเรื่องกับ ด.ญ.น้ำฝน เพื่อนร่วมโรงเรียนที่เป็นลูกสาวของนายเชษฐ์ และนายสังเวียน ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อ ร.ต.ท.วิทูร ชุณหศิลป์ ร้อยเวร สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.ฐิติภัทร์ เปิดเผยต่อไปว่า ตนรอตำรวจ สภ.ทุ่งลุง เพื่อให้ช่วยลูกชายที่ถูกจับตัวไปถึง 2 ชั่วโมงจนทนไม่ไหว จึงร้องขอตำรวจสายตรวจ 3 นาย เพื่อเดินทางไปกับตน โดยไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ เพื่อไปพบกับ นายเชษฐ์ ซึ่งตำรวจ ส.ภ.ปาดังเบซาร์ ทราบว่าอยู่ที่ไหน หลังจากที่ตำรวจ ส.ภ.ปาดังเบซาร์ ได้ทำการติดต่อกับนายเชษฐ์ ได้ และนายเชษฐ์ รู้ว่ามีการแจ้งความจึงข่มขู่ให้ถอนแจ้งความจึงจะปล่อยตัว ด.ช.พิชวัฒน์
ต่อมา ได้มีรถเก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อ ได้ขับมาที่หน้า สภ.ปาดังเบซาร์ โดยมีตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ ไปยืนรอรับ เมื่อรถเก๋งคันดังกล่าวมาถึงได้ทำการถีบ ด.ช.พิชวัฒน์ ลงจากรถและได้ขับรถหลบหนีไปโดยที่ตำรวจไม่ได้ทำการจับกุมแต่อย่างใด ตนจึงนำลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.หาดใหญ่ ) ซึ่งแพทย์ได้ตรวจร่ายกายพบว่า ซี่โครงหัก 2 ซี่ และมีบาดแผลมากมาย
โดยลูกชายได้เล่าให้ฟังว่า คนร้ายได้จับตัวขึ้นรถโดยใส่ถุงดำคลุมศีรษะ และใช้เท้าเหยียบไปตลอดทาง โดยพาไปขังไว้ในห้องซึ่งไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน และถูกชกต่อย ทุบตีจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาจึงได้มีคนมานำตัวขึ้นรถเก๋ง และถูกถีบทิ้งที่หน้า สภ.ปาดังเบซาร์
น.ส.ฐิติภัทร เปิดเผยต่อไปว่า ตนได้ติดตามความคืบหน้าจาก สภ.ทุ่งลุง และ สภ.ปาดังเบซาร์ มาโดยตลอด แต่ไม่มีความคืบหน้าในการจับกุมคนร้าย ดังนั้น เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม แต่ศูนย์ดำรงธรรมแนะนำให้ตนกลับไปติดตามความคืบหน้าที่ สภ.ทุ่งลุง ตนเห็นว่าคดีนี้ผู้ที่ทำร้ายลูกชายของตนต้องเป็นผู้มีอิทธิพล ตำรวจจึงไม่กล้าดำเนินคดี จึงตัดสินใจมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวผ่านไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และในขณะเดียวกัน ได้ทำหนังสือเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.สงขลา อีกด้วย