กองปราบปรามประชุมคดี “เสี่ยชูวงษ์” นักธุรกิจหมื่นล้านที่เสียชีวิตปริศนาภายในรถ พร้อมเร่งสรุปผลวิเคราะห์จากการจำลองการชน คาดทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนภาพเงาปริศนาบนลำคอผู้ตาย อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มา
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตและคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจหมื่นล้านเพื่อติดตามความคืบหน้า โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวภายหลังการประชุมว่า ในส่วนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้น ในวันนี้ได้เรียกชุดทำงานมารายงานเพื่อดูความคืบหน้า หลังจากที่ได้มอบหมายงานไปให้ก่อนหน้านี้ โดยจะนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้มาประมวลรวมกับข้อมูลเก่าซึ่งพบว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดีหลายอย่าง นอกจากนี้จะมีการเรียกสอบปากคำพยานบางส่วนเพิ่มเติม และนำสำนวนการชันสูตรพลิกศพที่ได้จาก สน.อุดมสุข มาประกอบเพิ่มเติมต่อไป จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์เป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ เป็นหน้าที่ของกองปราบปรามต้องทำการตรวจสอบว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวต่อว่า ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการจำลองเหตุการณ์ไปแล้ว ทางชุดสืบสวนสอบสวนได้จำลองเหตุการณ์ในทุกด้าน กมิติ ทั้งความเร็วต้นความเร็วปลาย ระดับความเร็ว 30-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนทีเกิดเหตุ โดยการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจำลองเหตุการณ์อย่างเปิดเผย โปร่งใสทุกขั้นตอน เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจมารับชม ตลอดจนมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะจากกองพิสูจน์หลักฐาน ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์และผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ทั้งนี้ แต่เดิมต้องรอผลพิสูจน์ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่ขณะนี้ได้เร่งรัดผลพิสูจน์ดังกล่าว คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะรู้ผล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในที่เกิดเหตุนั้น ทาง พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่เป็นความลับ ผลที่ได้จากการจำลองจะถือเป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง โดยหลังจากได้ข้อมูลก็จะมาวิเคราะห์ ประมวลตามหลักฐานต่างๆ ที่ได้ ซึ่งทุกอย่างต้องสอดคล้องตามหลักกฎหมายและวิทยาศาสตร์
ผบก.ป.กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีที่มีภาพการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ที่มีลักษณะคล้ายเงาปรากฏที่บริเวณลำคอนั้น ตนอยู่ระหว่างการตรวจสอบหารือถึงต้นตอของภาพว่ามีที่มาอย่างไร ทั้งนี้ในเบื้องต้นทราบว่าเป็นภาพของพี่สาวของนายชูวงษ์ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และรอความเห็นจากแพทย์ ส่วนกรณีการโอนหุ้นนั้นในเบื้องต้นพบผู้กระทำความผิด 4 คนเท่าเดิม โดยในขณะนี้ได้รับเอกสารจากทาง ก.ล.ต.ครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวที่ได้มาทั้งหมด ก่อนที่นำไปรวบรวมส่งฟ้องต่ออัยการต่อไป