ASTV ผู้จัดการ - ญาติ “เสี่ยชูวงษ์” และทนาย มอบหลักฐานเพิ่มเติมให้กองปราบ-ตร.เตรียมจำลองเหตุการณ์อุบัติเหตุอีกครั้ง
วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองปราบปราม น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ อายุ 54 ปี นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง และนายกันต์ แซ่ตั๊ง อายุ 22 ปี พี่สาว ภรรยา และบุตรชายของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจหมื่นล้านที่เสียชีวิตปริศนา พร้อมด้วยนายเอนก คำชุ่ม ทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.เพื่อมอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์
โดย พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า สำหรับกรณีอุบัติเหตุที่ทำให้นายชูวงษ์เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาซึ่งตนได้สั่งการให้มีการหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกหลายส่วน เพื่อจะได้นำมาประมวลข้อมูลที่ได้รับและติดตามผลกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใด สำหรับพยานหลักฐานต่างๆ ทางพี่สาวและบุตรชายของนายชูวงษ์ รวมทั้งทนายความได้นำเอกสารมายื่นให้ทางพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ในส่วนที่ต้องการให้มีการตรวจสอบซึ่งมีอยู่หลายประเด็น ส่วนการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุ ก็มีการเก็บไว้เกือบครบทั้งหมดแล้ว แต่จะมีข้อพิรุธหรือพบภาพบ่งบอกข้อมูลใดขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะเป็นความลับในสำนวนคดี
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ญาตินายชูวงษ์ได้นำเอกสาร ภาพถ่าย และเสื้อผ้าของนายชูวงษ์มามอบให้กับพนักงานสอบสวน จะมีการตรวจสอบหรือนำเข้าสำนวนการสอบสวนหรือไม่ พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า เมื่อมีการนำหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมมาให้ ทางเราก็คงต้องตรวจสอบ และอาจพิจารณานำเข้าสำนวนการสอบสวน และจะมีการพิสูจน์ในกรณีที่เป็นประเด็นสำคัญ ตนยืนยันว่าคดีนี้จะทำให้รอบคอบที่สุด เมื่อถามถึงสำนวนชันสูตรจาก สน.อุดมสุข ผบก.ป.ระบุว่า ทาง สน.อุดมสุข ยังไม่ได้ส่งมอบสำนวนดังกล่าวมาให้ ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.ได้เร่งรัดไปแล้ว
เมื่อถามว่าในขณะนี้มีปัญหาอุปสรรคใดในการรวบรวมพยานหลักฐานบ้าง พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า ในส่วนของสำนวนชันสูตรก็ต้องตรวจสอบ และยังมีพยานหลักฐานต่างๆ อีกหลายส่วนที่ต้องดำเนินการเพื่อนำมาประกอบสำนวนที่ทาง บก.ป.ดำเนินการอยู่ สำหรับการส่งมอบสำนวนชันสูตร ตนไม่ทราบว่าติดขัดปัญหาใด แต่ก็คงต้องให้เวลาในการทำงานด้วย
เมื่อถามถึงเรื่องจุดเกิดเหตุยังคงต้องนำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหรือไม่ พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า ในส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เข้าไปดูพื้นที่โดยตลอดอยู่แล้วแต่เพื่อความรอบคอบ ขณะนี้ก็มีการหารือ รวมทั้งร้องขอไปในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน นักวิชาการที่มีความชำนาญ เพื่อร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนวัน เวลา ตนจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวอีกว่า เรื่องการจำลองเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น อย่างที่ตนเรียนไว้แล้วว่าคงต้องมีการตรวจสอบที่เกิดเหตุและจำลองเหตุการณ์กันอีกครั้งอย่างแน่นอน ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมและเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดี ส่วนผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ามาร่วมทำงานนั้น ได้มีการร้องขอไปแล้ว ซึ่งมีการตอบรับมาแล้ว แต่ขอเวลาอีก 2-3 วัน ตนจะให้คำตอบว่าต้องไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและจำลองเหตุการณ์กันวันไหน
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวถึงคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ว่า ขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว แต่มีข้อมูลบางส่วนที่ยังต้องแสวงหาเพิ่มเติม อย่างกรณีการดำเนินการที่ได้ร้องขอไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับมาในข้อสงสัยที่พนักงานสอบสวนต้องการข้อมูล สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาที่จะเรียกตัวมาสอบปากคำแต่คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีความคืบหน้าอย่างมาก อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดูน้ำหนักพยานหลักฐานว่ายังต้องการอะไรเพิ่มเติม แต่หากพบว่ามีผู้ใดเข้ามาเกี่ยวข้องอีกก็จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมด
ต่อข้อถามเรื่องขั้นตอนการทำธุรกรรมในการโอนหุ้นนั้น พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า ในส่วนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและตรวจสอบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ขอให้สบายใจและไม่ต้องกังวล ทาง บก.ป.จะดำเนินการด้วยความรอบคอบและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามถึงกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด ได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า ตรงนี้เราไม่ได้กังวลและได้มีการสอบปากคำพยานไว้แล้ว ใครจะพูดอะไรก็เป็นสิทธิของทุกคน แต่หากมีพยานหลักฐานใดๆ ที่จะมายื่นให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ทางเราก็ยินดีจะรับไว้พิจารณา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เสียหาย หรือทางผู้ต้องหาที่ต้องการจะให้ข้อมูลใด สามารถนำมาให้ได้เลย ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนอยู่แล้วด้วยที่จะต้องตรวจสอบ และดำเนินการให้รอบคอบรัดกุมที่สุด
ด้านนายเอนกกล่าวว่า ได้นำเอกสารหลักฐานในกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ มามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป.เพิ่มเติม ซึ่งต้องเรียนว่าทั้งหมดเป็นหลักฐานใหม่ ที่ยังไม่เคยมอบให้กับหน่วยงานใด ส่วนประเด็นข้อสงสัยก็คงเป็นไปอย่างที่เคยเปิดเผยไว้ตั้งแต่เบื้องต้นแล้วว่าสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ทางญาติก็มีข้อสงสัย ส่วนหลักฐานไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เราก็รวบรวมมาให้พนักงานสอบสวน เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน แต่ในรายละเอียดต่างๆ ตนคงขออนุญาตไม่เปิดเผยในเวลานี้ เพราะทั้งหมดจะเป็นพยานหลักฐานในคดี โดยยืนยันว่าหลักฐานที่ได้นำมาในวันเดียวกันนี้ รวบรวมมาจากหลายส่วน
