“สมยศ” ทำงานวันสุดท้าย นำคณะนายตำรวจเกษียณสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกาศเดินหน้านโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 07.19 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ ผบ.ตร. นำคณะนายตำรวจที่จะเกษียณอายุราชการ เช่น พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วัฒนา สักกวัตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยคุณพจมาน พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และ ดร.บุษบา ชัยจินดา ว่าที่นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดย พล.ต.อ.สมยศได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมภริยา โดยถือฤกษ์ 07.19 นาที สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ พระนิรันตราย พระประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พระนารายณ์ทรงสุบรรณ และวางพานพุ่มพร้อมเครื่องสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นสิริมงคลหลังเกษียณอายุราชการ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรองรับชีวิตหลังเกษียณไม่ให้ตนเองซึมเศร้า อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ มีคุณค่า โดยจะร่วมลงทุนธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดตัวปีหน้า ธุรกิจอสังหารริมทรัพย์ ทั้งนี้ไม่ปฏิเสธจะเล่นการเมืองหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่คิด นอกจากนี้ยังระบุว่าจะเดินหน้าผลักดันนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือกาสิโนเสรี โดยเดิมตั้งใจเปิดตัวเว็บไซต์สอบถามความคิดเห็นประชาชาชนในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) ทันทีหลังเกษียณ แต่ต้องพิจารณาว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้หรือไม่
“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความตั้งใจ ยังไงผมก็ทำ เพราะไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเป็นเพียงการเสนอแนวความคิด ส่วนใครจะเอาไม่เอาไม่เป็นไร การเปิดช่องทางเว็บไซต์รับฟังความคิดเห็นเรื่องนี้เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่ระบอบประชาธิปไตย ด้วยการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย ที่ผ่านมาผมพูดแทนคนที่สนับสนุนแนวคิดนี้ แต่ยังมีคนไทยอีก 60 กว่าล้านซึ่งไม่ทราบว่าจะเห็นด้วยกับความคิดนี้หรือไม่ คนที่เห็นต่างคัดค้านผมรับฟังและให้เกียรติ เพื่อความแฟร์จึงให้พี่น้องชาวไทยลงความเห็น ครั้งแรกที่ถามความเห็นอาจไม่เห็นด้วย ก็ถามต่ออีก ท้ายที่สุดความคิดเห็นนี้จะเป็นประชามติ นี่ไม่ใช่การปูทางสู่การเมือง ผมพูดเรื่องนี้ยกตัวอย่างในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เจริญกว่าไทยมาก เดิมทีเขาคิดว่าประเทศเขาไม่ต้องมีกาสิโน ผ่านไป 50 ปี ทำประชามติ 20-30 ครั้ง หนีไม่พ้น สวิตเซอร์แลนด์ก็มีกาสิโน การตัดสินใจจะเล่นการเมืองหรือไม่ผมตอบไม่ได้ ตอบว่าเล่นหรือไม่ ยังเร็วไป ผมไม่ปฏิเสธ ไม่ตอบตอนนี้ดีกว่า ถ้าปฏิเสธแล้วสุดท้ายเปลี่ยน ก็กลายเป็นคนโกหก ไม่มีเยส-โน อนาคตถ้าทุกอย่างลงตัว เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนก็ถึงเวลา ถ้าคิดแล้วไม่เกิดประโยชน์ จังหวะไม่ดีก็ไม่เล่น จะตัดสินใจทำอะไรต้องให้ทุกอย่างลงตัว ทุกๆเรื่องต้องลงตัว ทำไมชอบถามว่าจะเล่นการเมืองหรือเปล่า คนทีเกษียณอายุราชการแล้วต้องเล่นการเมืองหรือ มันมีอะไรดีหรือ บางทีเราไม่เล่นตรงๆ เราอาจอยู่เบื้องหลังก็ได้ สนุกกว่าตั้งเยอะ” พล.ต.อ.สมยศกล่าว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า หลังเกษียณไม่มีอะไรจะฝาก เพราะไม่ห่วง พล.ต.อ.จักรทิพย์ เนื่องจากผลงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเป็นฝีมือของ พล.ต.อ.จักรทิพย์แทบทั้งสิ้น อย่างคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ก็สามารถเดินหน้าต่อได้ทันที
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนจะสานงานต่อจาก พล.ต.อ.สมยศทุกเรื่อง ทั้งการสร้างโรงพยาบาลศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ การจัดหาอาวุธปืนสวัสดิการ ส่วนคดีระเบิดราชประสงค์จะใช้เจ้าหน้าที่ชุดเดิมทำคดี เมื่อเป็น ผบ.ตร.แล้วจะดูคดีนี้ในภาพรวม พร้อมกำชับเร่งติดตามผู้ต้องหา 15 คนที่ยังหลบหนี ทั้งนี้ตนขอสังคมอย่าเป็นห่วง จะทำคดีอย่างเต็มที่
“ผมเองไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะเชื่อว่าทีมงานเจ้าหน้าที่ทุกคนสามารถทำงานได้ทั้งหมด แม้แต่เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของ พล.ต.อ.สมยศ ผมก็ใช้ชุดเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะผมไปคนเดียวสะดวกกว่า ไปปรับตัวกับเขาดีกว่า ขณะที่ตำแหน่งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่อยู่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะท่านก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว