ASTV ผู้จัดการ - ผบ.ตร. จัดประชุมสรุปสำนวนคดีระเบิดราชประสงค์ มัด “อาเดม - ยูซุฟู” มือบึ้ม เตรียมส่งสำนวนให้กองคดีตรวจสอบพรุ่งนี้ คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ มั่นใจพยานหลักฐาน ตามล่าผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีเพิ่มเติม ประสานตุรกีขอตัวไมซาเราะห์
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร ว่า วันนี้ เวลาประมาณ 14.30 น. จะมีการประชุมความคืบหน้าคดีระเบิดดังกล่าว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนมาร่วมประชุมด้วย จะพูดคุยเรื่องการสรุปสำนวนคดี ส่วนแนวทางการมอบนโยบายเพื่อให้คดีระเบิดดำเนินต่อไปนั้น คงจะมาดูว่าพยานหลักฐานครบถ้วนขนาดไหน จะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งแนวทางนั้นมีอยู่แล้ว ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีระเบิดที่ยังคงหลบหนีอยู่นั้น ยังมีการดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วว่าแบ่งชุดสอบสวนเพื่อดำเนินการ ส่วนจะได้ตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเต็มที่ ทำดีที่สุดเสมอ ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสอย่างอื่นที่เข้ามาสนับสนุนในการสืบสวนหาขบวนการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดเพิ่มเติม รวมทั้งการติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่ทั้งในและต่างประเทศด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมีการพยายามติดตามตัวอย่างเต็มที่
ผบ.ตร. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นายบิลา เติร์ก มูฮัมหมัด หรือนายอาเดม คาราดัก และ นายมีไรลี ยูซุฟู 2 ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่เป็นผลัดที่ 4 ที่กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน ร.มทบ.11) ยังไม่มีการให้การเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ในการติดตามตัวผู้ต้องหารายอื่น ทั้งสองรายนี้ก็สิ้นสุดอยู่ตรงส่วนนี้แล้ว ตนมั่นใจว่า พยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่ทั้งหมดจะสามารถเอาผิดกับนายบิลาเติร์ก และนายมีไรลี ในชั้นศาลได้ ส่วนเส้นทางการเงินที่ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ส่งมาให้นั้น ได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาบางส่วนแล้ว แต่อยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะนี้ผู้ต้องหาในขณะนี้ยังคงเท่าเดิม คือ 17 คน จับกุมได้แล้ว 2 ราย อีก 15 ราย ยังคงหลบหนีอยู่ ทั้งนี้ หากใครมีเบาะแสก็ให้แจ้งมา เงินรางวัลก็มีอยู่แล้วด้วย ส่วนน.ส.วรรณา สวนสัน หรือ ไมซาเราะห์ และ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สัญชาติตุรกี สามีของ น.ส.วรรณา ที่คาดว่าอยู่ที่ประเทศตุรกีนั้น ขณะนี้ก็มีความชัดเจนและน่าจะมีการประสานขอตัวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำทุกวิถีทางอยู่แล้วเพื่อจะได้ตัวผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอยู่มาดำเนินคดี
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศไทยได้ควบคุมตัวช่างภาพชาวตุรกีไว้เป็นเวลา 10 วันแล้วนั้น ไม่ได้ควบคุมตัวช่างภาพชาวตุรกี ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก สถานที่ท่องเที่ยวก็เยอะ มีอาจจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่มาเขียนข่าวว่าเป็นชาวตุรกี ซึ่งเป็นเรื่องบิดเบือน ซึ่งโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คไปเร็วมาก ผู้สื่อข่าวรู้แล้ว แต่ตนยังไม่ทราบเลย
ต่อมาเวลา 15.15 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวภายหลัง ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีระเบิด ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร ร่วมกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ และทีมสืบสวนสอบสวน โดยใช้เวลาประชุมเพียง 20 นาที ว่า ในการติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีนั้นแบ่งชุดทำงานติดตามอยู่ ในส่วนสำนวนคดีนั้นในวันที่ 20 ตุลาคม พล.ต.ท.ศรีวราห์ จะสรุปสำนวนส่งมาให้ตน และตนจะมอบให้กองคดีอาญา สำนักงานงานกฎหมายและคดี ตร. ตรวจทาน ตรวจสอบความถูกต้อง คงใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ จึงจะส่งสำนวนให้อัยการได้ คดีนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ การติดตามผู้ต้องหาที่เหลือต้องใช้เวลา คดีนี้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อหาก่อการร้ายแก่ผู้ต้องหาในคดีนี้ มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะเอาผิดนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด และ นายมีไรลี ยูซูฟู เพราะหากไม่มั่นใจศาลคงไม่อนุมัติหมายจับแต่แรก พยานหลักฐานชัดเจน ทั้งเอกสาร วัตถุ บุคคล ครบ