ดีเอสไอแจงถอนหมายจับ “ตั๊น” เป็นไปตามกฎหมาย หลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัว

ASTV ผู้จัดการ - “ดีเอสไอ” แถลงถอนหมายจับ “ตั๊น-จิตภัสร์” คดีกบฏและข้อหาอื่น เป็นไปตามกฎหมายหลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ล่าสุดอัยการให้สอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ ส่วนจะขาดคุณสมบัติการเข้ารับข้าราชการตำรวจหรือไม่ อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (23 ก.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอมอบหมายให้ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ แถลงข่าวกรณีเกี่ยวกับกรณีที่ดีเอสไอได้มีการลบหมายจับ หรือยกเลิกหมายจับ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น อดีตแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ในข้อหาฐานกบฏ และข้อหาอื่นรวม 8 ข้อหาว่า กรณีดังกล่าวนั้น น.ส.จิตภัสร์เป็นถูกกล่าวหาในคดีที่ 261/2556 ในคดีอาญาสืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองของ กปปส.เมื่อปี 2556 คดีดังกล่าวมีการสอบสวนเสร็จสิ้นและได้ส่งสำนวนไปทางพนักงานอัยการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2557 โดยพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้อง และมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการนำตัวมาฟ้องตามกฎหมาย จึงได้มีการยื่นต่อศาลให้ออกหมายจับ น.ส.จิตภัสร์มาดำเนินคดี หลังจากมีการออกหมายจับ น.ส.จิตภัสร์ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และนำตัวส่งให้พนักงานอัยการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่นั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของทางอัยการที่จะเป็นผู้พิจารณา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อัยการได้ขอให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการดำเนินการ

พ.ต.ต.วรณันกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีหมายจับของ น.ส.จิตภัสร์ เมื่อมีการจับตัวได้ หมายจับก็จะสิ้นสุดลงไปตามกฎหมายอาญา มาตรา 68 และพนักงานสอบสวนดีเอสไอจึงรายงานผลการปฏิบัติการตามหมายศาลเพื่อให้ศาลทราบ เป็นไปตามข้อบังคับประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกคำสั่งหรือหมายอาญา พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นกระบวนการของศาลที่จะดำเนินการเพิกถอนหมายจับตามกฎหมาย นอกจากนี้ ส่วนกรณีที่ น.ส.จิตภัสร์จะขาดคุณสมบัติในการเข้ารับข้าราชการตำรวจหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547