xs
xsm
sm
md
lg

ย้ายนายพลตำรวจสมัยนี้ของจริงต้อง “รัฏฐาธิปัตย์”ได้ดีไม่มีพลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยก 3 คดีจราจร ต้นแบบความบกพร่องตำรวจนครบาล ทั้งกรณีเสี่ยชูวงษ - นางแบบเซ็กซี่แอนนา - “เสี่ยคิม”GT-R /อย่าพลาดศึกเกาเหลาคู่ใหม่ นรต.35 “ต่อไปนี้เมิงกับกรูไม่ใช่เพื่อนกัน”

“เรามีสองหู แต่มีลิ้นเพียงลิ้นเดียว เพื่อว่าเราจะได้ฟังมากหน่อย และพูดให้น้อยหน่อย”ดิโอจิเนส นักปราชญ์กรีกโบราณ ได้กล่าวไว้...สวัสดีครับ ทุกวันศุกร์ พบกับ “บิ๊กเกรียน”พร้อมเขย่าวงการสีกากีด้วยเรื่องดัง-ข่าวเด็ด รวมไปถึงการเจาะลึกล้วงตับ ไต ใส้ พุง ออกมาตีแผ่นตำรวจไทยกันอย่างสุดกึ๋น.....00000.....

สัปดาห์นี้เริ่มด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจประจำปี 2558 ใครเป็นใคร “บิ๊กเกรียน”แทบหยิบมาหากินไม่ได้เพราะทีมข่าว ผจก.ออนไลน์ เขารายงานก่อนหน้าไปอย่างละเอียดยิบ...เอาเป็นว่าขอเป็น“เก็บตก”หากไม่มีเดี๋ยวจะเสียฟอร์มเขาน่ะซิ!...ดูจากโผและวิเคราะห์เฉพาะระดับ“ผบช.”ผู้มีอาวุโสสูงสุด 1 - 7 ไงก็ได้ติดยศ พล.ต.ท.แน่ ส่วนจะขึ้นตรงไหน ดีไม่ดี เด่นไม่เด่น อันนี้เห็นชัดๆว่าถ้าไม่ “แข็ง”จริง ไม่ “ปึ้ก”จริงไม่มีวันได้แอ้ม.....00000....ตำแหน่งมี 21 บวก 1 เสริมด้วยตำแหน่งใหม่เปิดรองรับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล บช.น.ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง จึงได้อานิสสงค์เพิ่มมาอีก 1 เก้าอี้....อาวุโส

ลำดับที่ 1 - 7 ลอยลำไปแล้ว.....ตำแหน่งเฉพาะ ตชด. กับ สง.นรป. (สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ) อีก 2 เป็น 9 แต่ด้วยเก้าอี้ ผบช.มีอยู่ 21 บวก 1 จึงต้องลุ้นกันต่อไปว่าใครจะหลุด ใครจะๆได้ไปต่อเพราะที่ “บิ๊กเกรียน”ทราบมา “รัฏฐาธิปัตย์”เขาล็อกสเปคไม่แทบหมดสิ้น ทั้งโควตาของ สร.1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี โควตา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โควตาฟาร์มโชคชัย โควตาว่าที่อดีต และว่าที่อนาคต ผบ.ตร. แต่ที่ย่องเบามาเงียบๆก็คือโควตา “นกหวีด”ปริ๊ดปี้ปริ๊ด.....00000.....พูดถึง (เขียน)ว่าที่อดีต และอนาคต ผบ.ตร. วันก่อน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เจ้าพ่อสีกากีตัวปลอมออกแถลงจ้อยๆ ยอมรับหน้าชื่นตาบานว่าเหตุระเบิดสี่แยกราชประสงค์มาจากขบวนการค้ามนุษย์อุยกูร์.....พลาดท่าเสียทีตอนขยายเหตุการณ์อุยกูร์บุกสถานทูตไทย ในตุรกี“บิ๊กอ๊อด”สมองสั่งการไม่ทัน “ปาก”หลุดมาว่าต้นทางในประเทศไทย(ระเบิด) ปลายทางที่ตุรกี (พังสถานทูต) มาจากสาเหตุเดียวกัน....อ้าวคุณพี่ ภาพเหตุการณ์ทั้งสองเรื่องแพร่ไปทั่วโลก คนไทยก็รับข่าวสารข้อมูลเดียวกัน “อุยกูร์”ตุรกี มันแห่ไปพังสถานทูตไทยในอิสตันบูล เพราะไม่พอใจท่ารัฐบาลไทยส่ง 109 อุยกูร์กลับประเทศจีน เมื่อมันสาเหตุเดียวกันตามที่คุณพี่อ๊อดว่าจะมาโกรธเคืองกระจิบข่าวเขาทำไม.....

ตอนจับขบวนการได้สังคมชื่นชม “บิ๊กเกรียน”เห็นโหดๆ ด่าลูกเดียวยังดีใจไปกับท่าน แต่พอนานวัน “บท”เริ่มไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากไม่ยอมรับเป็นก่อการร้ายยังวนเวียนไปหนมาสามวาสองศอก จู่ๆวันดีคืนดีคุณพี่อ๊อดออกมาจีบปากจีบคอ “ยอมรับ”ตรงกับสิ่งที่สังคมปักใจเชื่อไปแล้ว สื่อทุกแขนงทั้งกระดาษ อากาศ โซเชียลฯ ตีข่าวกันกระจาย แค่คืนเดียวคุณพี่อ๊อดออกมาตีหน้าตายตัดพ้อต่อว่าสื่อข้อหาเก่าๆคือ “บิด-เบือน”....เฮ้ย!!! ไม่รู้จะกลัวอะไร“ลุงตู่”นักหนา.....

00000.....ส่วนว่าที่ ผบ.ตร.ในอนาคต พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ไม่ว่างานราษฎร์ งานหลวง งานรุ่น เข้ามาเพียบ เรียกว่าเวลากินไม่ได้นอน-เวลานอนไม่ได้กิน จากนักประสาน 10 ทิศกลายมาเป็น “นักสู้” 10 ทิศเมื่อรัฐบาลมาเลเซีย รวบตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันขบวนการวางระเบิดศาลท่านท้าวมหาพรหม รีบบินปรื๋อไปร่วมสอบสวนด้วยตังเอง “บิ๊กแป๊ะ”ไม่ไปเปล่าแต่หนีบ “บิ๊กช้าง”พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ไปด้วย “ผล”ไม่มีอะไรน่าพอใจเพราะผู้ต้องสงสัยไม่น่าเกี่ยวกับคดีวางระเบิด งานนี้ “บิ๊กเกรียน”จึงขอแวะพันแข้งพันขา เพื่อนซี้ “หนวดสวย”ตกลงโยกย้ายเที่ยวนี้ “บิ๊กช้าง”จะย้ายไปไหน....ข่าวล่ามาเรือเกลือเจ้าตัวขอ “บาย”ไม่อยากดิ้นรนหาเรื่องเหนื่อย เหตุผลหลักคือเรื่องสังขารแต่คนใก้ลตัว-หนิดหนมรู้กันแซ่ดวันไหน “ตื่นเช้า”แล้วเวียนหัว หน่วยไหน “งานหนัก”อย่ามายุ่งกะกูนะว้อย

.....00000.....เบื้องหน้าเบื้องหลังย้ายนายพล ใครไม่รู้จริงเท่ากับ“คนใน” น่าเห็นใจ “บิ๊กแป๊ะ”ว่าที่ผบ.ตร.ส่งเพื่อนร่วมรุ่นไม่ถึงฝั่งหลายคน ถ้าพล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข.และ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น.นรต.36 “หลุด”จากทุกโผอนาคตข้างหน้าในฐานะผู้นำสูงสุดองค์กรสีกากี อาจจะเหนื่อยกว่านี้อีกหลายเท่า....00000.....ยังไม่รวมปัญหา“ข้ามหัว”พี่ๆ วันนี้บรรดา“นายเก่า”หมุนกลับกลายมาเป็น“ลูกน้อง” ไล่เรียงตั้งแต่พี่เอก พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.โรฮิงญา พี่“จูดี้”อยู่กันจนแก่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญรองผบ.ตร.สังกัดพรรคเพื่อไทย “บิ๊กวุฒิ”พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผบ.ตร.เออีซี.“บิ๊กอวบ”พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขารรองผบ.ตร.ไซเตรส “น้องแป๊ะ”ใช้วิชาตัวเบาเหาะข้ามหัวพี่มาทุกคน.....ต่อหน้ามีแต่รอยยิ้ม “ลับหลัง”อย่าให้เซด เมื่อระดับรอง ผบ.ตร.รอบๆ ตัวเขารู้สึกกันแบบนั้นทางแก้ไขมีทางเดียวคือ “แชร์”อำนาจ ตำแหน่งแห่งหนเด็กพี่อยู่ตรงไหน อยากได้อะไรถ้าไม่ขัดใจ“รัฏฐาธิปัตย์”น้องต้องจัดให้ การให้เกียรติแบ่งงาน ให้พี่ที่บริหารอย่างชัดเจน “บิ๊กเกรียน”หวังว่าบรรยากาศต่างๆมันอาจจะดีขึ้น...ก็แหม่เกษียณอายุฯตั้งปี 63 พี่ๆ หมดอาลัยตายอยากแล้วน้องเอ๊ย.....00000.....

เอ่ยถึง “บิ๊กอวบ”มีเรื่องฮาระคนเศร้าเมื่อ“เพื่อนเลิฟ”โทรศัพท์ตัดขาดจากกองมรดก“เมิงกับกรูไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว”จับสัญญาณคิดว่าไร เพื่อนร่วมรุ่น นรต.35 มีน้ำโหที่ไม่ยอมยกมือโหวตให้เขา...เห้ย อะไรจะขนาดนั้น คบกันมา 3 - 40 ปี เพื่อนน่าเข้าใจเพื่อน ก็สถานการณ์มันเปลี่ยนยิ่งกว่า“ลิงหลอกเจ้า”ขนาด “บิ๊กเอก”ทุ่มกายถวายชีวายังโดน “หักหลัง” ดีๆ กันเถอะ “เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายไม่ต้องไปหา”ดูคู่ซี้“แป๊ะ - ช้าง”เป็นตัวอย่าง “อ้วน”แค่ไหน “แป๊ะ”ก็จะอุ้ม....00000.....

แอ๊ะๆ หายหน้าหายตาไปนาน โผล่ออกมา “เป็นเรื่อง”พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร มีข่าวสำคัญมาบอก พลาดไม่ได้โดยเฉพาะคนใช้รถ ใช้ถนน ประเด็นแรกใบสั่งต่างๆที่ผู้ขับรถได้รับไปหากยังไม่เสียค่าปรับกรมการขนส่งทางบก ไม่สามารถอายัดการต่อภาษีประจำปีได้ เหตุผลง่ายๆ กรมการขนส่งฯ ระบุว่าเป็นข้อเสนอที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ รวมทั้งคณะกฤษฎีกาไม่เห็นชอบ ข้อเสนอดังกล่าวจึงตกไป.....แต่....บรรดาเจ้าของใบสั่งอย่าเพิ่งระริกระรี้เพราะตำรวจเตรียมยื่นข้อเสนอใหม่แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ......1.หากผู้ใดกระทำผิดได้รับใบสั่งแล้วไม่มาชำระค่าปรับจะมีโทษปรับตั้งแต่ 400 - 1,000 บาท จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาทและปรับขั้นต่ำ 200 บาท 2.หากครบ 60 วันยังไมมาชำระค่าปรับจะเพิ่มโทษปรับตั้งแต่ 1,000 - 5,000 บาท 3.หากครบ 180 วันยังไม่มาชำระค่าปรับจะจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2 ,000 - 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับซึ่งในข้อหานี้สามารถนำขึ้นศาลแขวงเพื่อให้ศาลพิจารณาโทษจำคุกได้.....00000.....

อ่านเรื่องนี้แล้ว “บิ๊กเกรียน”รู้สึกจี๊ดๆ “ของขึ้น”อย่างไม่มีเหตุผล ว่าไปแล้วน่าจะมี ข้อ 4 เพิ่มไปด้วยนะ “บักดุล”เอาไปประหารชีวิตซะเลยดีมั้ย.....เรื่องใบสั่ง “จับปรับ -ไถ”เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสังคมไทยมาโดยตลอด แต่ยิ่งหนักก็คราวตำรวจไทยทำมาหารับทานลำบาก บ่อน-ซ่อง เปิดไม่ไดบรรดา “เจ้านาย”ที่ไม่เคยแลรายได้ตรงจุดนี้จึงพาเหรดเข้ามาแจมแบบมือขอ “ส่วนแบ่งค่าปรับ” ค่าแบ่งใบสั่งใครได้มาก-น้อยขนาดไหนเป็นความลับ หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอทราบเพียงคร่าวๆ ว่าถ้าในกองบัญชาการตำรวจนครบาล 50 เปอร์เซ็นต์แบ่งให้ กทม. ส่วนที่เหลือคนจับ ไม่เกิน 30 อีก 20 เฉลี่ยเป็นก้อนในระดับโรงพัก ผกก. รองผกก.ฝ่าย จร.สว.จร.ระดับกองบังคับการ มีผบก. รองผบก.ฝ่ายจราจร ระดับกองบัญชาการมี ผบช.และรอง ผบช.ฝ่ายจราจร....ส่วนตำรวจทางหลวง แบ่งเค้กกันเสร็จสรรพ สายเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ตะวันออก ตะวันตก รับทาน”ส่วย”จากการรีดไถเป็นหลักแถมด้วยค่าเคลียร์รถบรรทุกในระบบสติกเกอร์“บิ๊กเกรียน”คนมองโลกในแง่ร้ายนั่งยัน นอนยันที่นี่มีส่วย หากไม่มีจะแย่งกันแทบเป็นแทบตายมาเป็นตำรวจทางหลวงกันทำไม.....00000.....ในฐานะประชาชนคนไทย เสียภาษีทุกเม็ด แถมเคยโดนตำรวจจราจรไถบ่อยๆ “บิ๊กเกรียน”ขอเรียกร้องให้ยกเลิกระบบแบ่งเปอร์เซ็นต์ค่าปรับ หรือถ้าจะคงไว้ให้ตำรวจระดับผู้ปฎิบัติการแต่ห้ามเกินรายละ 10,000 บาทต่อเดือน ห้ามตั้งด่านลอย ด่านผี รีดไถ ห้ามเรียกรับเงิน ห้ามมีส่วยสติ๊กเกอร์ หากเคราะห์หามยามซวยมีหน่วยใดไปตรวจพบ หรือมีคลิปจะๆ แบบดิ้นไม่หลุดต้องไล่ออก หรือจำคุกผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกระดับ....ล่อกันแบบนี้ เอาตาต่อตาฟันต่อฟันก่อน “หมาต๋า”จราจรจะเสนอกฎหมายมากดหัวชาวบ้าน.....00000.....

ไหนๆก็ไหนๆ “บิ๊กเกรียน”เคยคุยกับ “ผู้รู้”ยืนยันว่าตำรวจเป็นแค่ปลายเหตุ เป็นเพียงคนดูแลกติกา หากไม่อยากถูกจับ-ปรับ ก็ต้องปฏิบัติให้ถูกกฎหมาย ว่ามาแบบนั้น “บิ๊กเกรียน”แทบไปไม่เป็น.....มีคำถามต่อมาว่าถนนบางสายเช่นสระบุรี - นครราชสีมา หรือถนนมิตรภาพ บางช่วงห้ามความเร็วเกิน 60 กม./ชม.ได้ความรู้มาว่าเพราะเป็นเขตชุมชนต้องจำกัดความเร็ว..อ้าวไหนล่ะป้ายเตือน กรุณาติดให้เห็นเด่นๆชัดๆได้หรือไม่ “มิตรภาพ”ตลอดทั้งเส้นมันคือไฮเวย์ในความรู้สึกแต่เมื่อว่ากันอย่างนั้นชาวบ้านจะไปขัดอะไรได้.....00000.....ความรู้ต่อมาก็คือหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจราจร ในกรุงเทพฯ ก็คือ กทม. ส่วนต่างจังหวัดขึ้นกับ ผวจ. - กระทรวงมหาดไทย กรมการขนส่งทางบก-กระทรงคมนาคม และอัยการ-ศาล.....00000.....

มากมายขนาดนี้หาก “รัฏฐาธิปัตย์”พอมีเวลา ท่านจะบูรณาการหรือต้มยำทำแกงอะไรให้มันเข้าท่ากว่าที่เป็นอยู่ก็รีบทำๆเถอะ ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนอย่างที่สุด สำหรับ “บักดุล”พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์รอง ผบช.น. “เด็กสร้าง”ระบอบ “ทักษิณ”ส่งไปทำหน้าที่อื่นสักพัก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจจะไม่หูฉึ่งเพราะถูกด่าฟรีๆนะขอรับ....00000.....

ตบท้ายคนละเรื่องเดียวกันกับปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเกี่ยวกับคดีจราจร....คดีแรกปริศนาฆาตกรรมเสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง พื้นที่ สน.อุดมสุข ถ้าว่าตามเนื้อผ้าหากตำรวจกองปราบปราม พิสูจน์ได้ว่าเป็นการฆ่าจัดฉากตำรวจท้องที่ จะว่าไง เข้าข่ายบกพร่อง เลินเล่อหรือไม่เพราะหลักฐานต่างๆหายไปกับ “ธง”ที่ไม่เคยฉงนใจ พอรับแจ้งเหตุอะไรก็ทำๆกันไป “บีกเกรียน”เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดอบรม หรือสื่อสารกับบรรดาพนักงานสอบสวนอย่างรวดเร็วที่สุด ให้ดีต้องคอยสอดส่องแนะให้ทุกหน่วยงาน “อัพเดท”ข้อมูลข่าวสารเป็นประจำเพื่อให้ทันโลก....00000.....

คดีต่อไปอุบัติเหตุจากฝีมือดารานางแบบสาวสวยแอนนา แฮมบาวรีส ขณะขับรถเบ็นซ์ออกไปหาอะไรกินตอนตีสาม วันที่ 26 มิ.ย.2558 ระหว่างขับมาด้วยความเร็งสูงเกิดชนรถเก๋งของ ร.ต.ท.นภาดล วงษ์บัณฑิต รองสวป.สภ.สุพรรณบุรี ซึ่งกำลังเงียบเอาแรงอยู่ภายในรถผล ร.ต.ท.นภาดล ตายคาที่ส่วนแอนนา หลังสติแตกตามที่เห็นในคลิปก็แว่บหายตัวไป กว่าจะโผล่มาพบ พ.ต.ต.สมชาย สาระเกษพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เจ้าของคดีก็ปาเข้าไปตอนบายของวันใหม่......คดีนี้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางโดยเฉพาะประเด็นตำรวจปล่อยให้ผู้ต้องหาหายตัวไปอย่างไร้เหตุผล ตามข้ออ้างว่าตื่นตกใจหรือบาดเจ็บนั้นยังไม่สามารถกลบข้อสงสัยที่ว่า น.ส.แอนนา ต้องการหลบการตรวจวัดแอลกอฮอล ในกระแสเลือดหรือเปล่าเพราะมีผลทางคดีโทษหนัก-เบาแตกต่างกัน ประสา “บิ๊กเกรียน”แม้จะจบเบื้องต้นด้วยการเยียวยาฝ่ายคนตายแต่ทางคดีตำรวจจะ “ด้น”ต่อไปอย่างไร สภาพรถเละเทะขนาดนั้นจะขับด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.เหมือนคดีเสี่ยชูวงษ์ หรือเปล่า หรือ....อาจถึงกับ “ไล่กล้อง”จัดฉากสร้างเรื่องขอเตือนตำรวจ “หลวมตัว”มากๆระวังกางเกงหลุดนะจะบอกให้.....00000.....

คดีสุดท้าย หมาดๆกรณี “เสี่ยคิม”นายสุทธิศักดิ์ สุทธิเทศเจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรู “เอส เอส ออโต้อิมพอร์ท”ย่านพระราม 9 ขับรถเก๋งสปอร์ต GT-R ราคาเกือบสิบล้านพุ่งชน จยย.รับจ้างมีคนเจ็บการสาหัส 2 รายเหตุเกิดตอนเช้ามืดวันที่ 6 ก.ย.2558 หลังนักสืบโลกโซเชียลฯ แชร์ข้อมูล ถัดมาไม่กี่วันดอดเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.เชษฐา สว่างสุข ผกก.สน.วังทองหลวง.....00000......ตำรวจทำขึงขังหลังโดนด่าเพราะคนตาดีไปเห็นรถคันก่อเหตุจอดทิ้งหน้าโรงพักพอนักข่าวไปถาม ผกก.ทำบี้บอดใบ้จะสนใจอะไรกันนัก สุดท้ายกระแสแรงเลยตั้ง 6 ข้อหาหนัก...แต่ที่แน่ๆวิธีการหลบ “ตรวจเมา”เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกรณี“แอนนา - เสี่ยคิม”อาจเป็นต้นแบบให้มี “ฆาตกรขี้เหล้า”เต็มถนน....เมื่อผู้รักษากฎหมายไม่แข็งขัน เมื่อคนรวยพอรู้ช่องทางสู้ “เหยื่อ”ก็คือเรา-ท่าน และลูกหลาน สังคมไทยทุกวันนี้ “อยู่ยาก - ตายลำบาก”แต่จะเป็นจะตายก็ต้องอยู่ให้ได้ อย่าไปหวังพึ่งใคร โปรดระแวดระวังภัยกันเอง......โชคดีทุกๆ ท่าน...
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น