ตอนนี้ก็รอเพียงรอขั้นตอนระเบียบการแต่งตั้ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเรียบร้อย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเรียงลำดับอาวุโสระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างก็พร้อมสรรพเหลือเพียงนำชื่อเข้าบัญชีแต่งตั้ง ขึ้น รองผบ.ตร. ให้ ก.ตร. ตีตราประทับก็เสร็จสมบูรณ์ บันไดสู่เก้าอี้ “ผู้นำสีกากี” ก็จะเหลืออีกขั้นเดียว
ก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก นั่งเก้าอี้ “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ตามแผนบันได 3 ขั้น สู่“ผู้นำสีกากี” เรียบร้อยแล้ว สำหรับ“บิ๊กปู”พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. หลังวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่มี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นประธานประชุม ก.ตร. แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไฟเขียวผ่านฉลุย!!!
เยียวยาตามคำสั่งศาลปกครองกลาง คืนสิทธิการนับวันทวีคูณปฏิบัติหน้าที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยคำสั่งดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ทำให้ตามลำดับอาวุโสระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ จ่ออาวุโสลำดับสูงสุด ซึ่งตามกฎ ตามกติกา ก.ตร.การแต่งตั้งขึ้น รองผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเรียงตามลำดับอาวุโส
นั่นก็หมายถึงในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ “นายพล” วาระประจำปี 2558ซึ่งคาดว่าจะอยู่ประมาณปลายๆ เดือนกันยายนนี้ ชื่อ “พล.ต.ท.ศรีวราห์” ก็จะขยับขึ้น “รองผบ.ตร.” ก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สองโดยทันที
ตอนนี้ก็รอเพียงรอขั้นตอนระเบียบการแต่งตั้ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเรียบร้อย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเรียงลำดับอาวุโสระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างก็พร้อมสรรพเหลือเพียงนำชื่อเข้าบัญชีแต่งตั้ง ขึ้น รองผบ.ตร. ให้ ก.ตร. ตีตราประทับก็เสร็จสมบูรณ์
บันไดสู่เก้าอี้ “ผู้นำสีกากี” ก็จะเหลืออีกเพียงขั้นเดียวเท่านั้น และดูเหมือนการใช้สิทธิทวีคูณชายแดนใต้ ในการพาร์ทชั้นขยับขึ้นสู่ตำแหน่งสูงขึ้น ในการแต่งตั้งวาระประจำปีนี้จะไม่ใช่มีเพียง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รายเดียวเท่านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงให้ใช้สิทธิทวีคูณชายแดนใต้ในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นต่อไป
แม้ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ ผลักดันการยกเลิกการใช้สิทธิทวีคูณชายแดนใต้ในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกับกองทัพ คงเหลือเพียงสิทธิทวีคูณในเรื่องอายุราชการ สวัสดิการต่างๆ และผ่านตราประทับจาก ก.ตร.เรียบร้อยแล้ว จนทำให้ “ตำรวจใต้” หลายคนออกมาทวงติง และสะท้อนถึงการขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่พื้นที่ที่ยังมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสร้างความรุนแรง วางระเบิด และลอบยิง ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐอย่างต่อเนื่อง
“การยกเลิกการใช้สิทธิทวีคูณชายแดนใต้ในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งผ่านมติเห็นชอบจาก ก.ตร.ไปแล้ว จะใช้กับตำรวจที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่หลังจากคำสั่งยกเลิกมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ในส่วนตำรวจที่ได้รับสิทธิทวีคูณชายแดนใต้อยู่แล้ว ยังสามารถใช้สิทธิเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นได้ตามระเบียบเดิม”
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล(ผบช.สกพ.) แจกแจงรายละเอียดการยกเลิกการใช้สิทธิทวีคูณชายแดนใต้ในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น อันเป็นที่มาของหนังสือแก้ไขประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจ ฉบับล่าสุดที่พล.ต.อ.สมยศ ลงนามแจ้งเวียนส่งถึง จเรตำรวจแห่งชาติ รองผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา
โดยแทนหนังสือคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0009.231/3074 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2558ที่เพิ่งแจ้งประกาศลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจระดับ รองผบช. ถึง รอง ผบ.ตร. ให้หน่วยต่างๆ ทราบไปเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งลำดับอาวุโสที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ได้นำสิทธิการนับวันทวีคูณชายแดนใต้มานับอายุราชการ ส่งผลให้ “ตำรวจ” ที่เคยปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายคนมีการขยับลำดับอาวุโส และที่สำคัญการขยับอาวุโสรอบนี้ อาจมีผลต่อการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2558 ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ให้มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร
อย่างพล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ(สบ.8) ตามลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ ผบช.เดิม อยู่ลำดับ 4 เมื่อมีการจัดลำดับอาวุโสใหม่ โดยนับระยะเวลา การปฏิบัติงานเป็นทวีคูณในระดับ ผบช. 1 ปี 6เดือน 24 วัน และระดับรองผบช. 1 ปี 11 เดือน 2 วัน และระดับ ผบก.4 ปี 4 เดือน 22 วัน ทำให้ พล.ต.ท.สุชาติ เลื่อนขึ้นมาอาวุโสลำดับ 1 จ่อคิวขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. โดยอัตโนมัติ ชนิดที่ห้ามบิดพลิ้วใดๆ
พล.ต.ต.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ รองผบช.ศชต. ตามลำดับอาวุโสเดิมอยู่ในลำดับที่ 4เมื่อนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณระดับ รองผบช. 2 ปี 11 เดือน และระดับ รองผบก. 1 ปี 5เดือน 17 วัน เข้าหลักเกณฑ์ 33% ตามกฎ ก.ตร. ที่ต้องขยับขึ้น ผบช. โดยอัตโนมัติ เพียงแต่ต้องลุ้นว่าประสบการณ์การทำงานชายแดนใต้กว่า 5 ปี จะเข้าตา ผบ.ตร.สมยศ และว่าที่ ผบ.ตร.จักรทิพย์ ดันให้ขึ้น ผบช.ศชต.หรือไม่เท่านั้น เพราะพล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผบช.ศชต. ซึ่งผลการนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณในระดับ รองผบช.3 ปี 7 เดือน 8 วัน แต่ลำดับอาวุโสในการจัดใหม่ไม่เปลี่ยนแปลงยังคงอยู่ลำดับที่ 6 แต่ก็ยังต้องเรียงแถวขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ตามเก้าอี้ที่ว่างเช่นกัน
พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ รองผบช.ศชต. ผลการนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณในระดับ รองผบช. 1 ปี 11 เดือน เดิมลำดับอาวุโสที่เพิ่งประกาศไปต้นเดือนส.ค.อยู่ลำดับที่ 31 พอมีการจัดเรียงใหม่ ทำให้ขยับลำดับอาวุโสพุ่งพรวดมาอยู่ลำดับที่ 18เช่นเดียวกับพล.ต.ต.สาคร ทองมุนี รองบช.ศชต. ผลการนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณในระดับ รองผบช. 1 ปี 11เดือน ขยับลำดับอาวุโสจาก 32พุ่งพรวดขึ้นมาแตะหลังพล.ต.ต.รัฐพงษ์ อยู่ลำดับที่ 19
อย่างไรก็ดี การขยับจัดลำดับอาวุโสใหม่ครั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สะท้อนออกมา คือ ความชัดเจนในการใช้สิทธิ์ทวีคูณชายแดนใต้ที่ยังใช้สิทธิ์ได้อยู่สำหรับผู้ที่มีสิทธิติดตัวมาแล้ว และสิทธิการนับทวีคูณชายแดนใต้ชายแดนใต้ครั้งนี้ ก็ทำให้มีนายตำรวจระดับนายพล อย่างน้อยๆ 3-4 ราย ได้รับประโยชน์ขยับเก้าอี้สูงขึ้นแน่นอนแล้ว