ASTV ผู้จัดการ - รอง ผบ.ตร.ยอมรับคดีระเบิดซับซ้อน ต้องวิเคราะห์หนักมาก เตรียมสอบ “ยูซูฟู” ชี้เป็นกุญแจดอกสำคัญ เชื่ออยู่ในที่เกิดเหตุบึ้มแยกราชประสงค์เช่นเดียวกับ “อาเดม คาราดัก” ระบุเป็นขบวนการใหญ่ และคดียังทับซ้อนกันอยู่ระหว่างการวางระเบิด-การขนคนไปต่างประเทศโดยมีคนไทยเกี่ยวข้อง ย้ำไม่หนักใจ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ยังเจอคดีนี้อีกก็ไม่เป็นไร
วันนี้ (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง (รอง ผบ.ตร.มค.) ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรับผิดชอบคลี่คลายคดีระเบิดซึ่งยอมรับว่าคดีนี้จับยาก มีความสลับซับซ้อน ต้องวิเคราะห์กันมาก โดยในช่วงบ่ายวันนี้ตนจะไปพูดคุยกับนายยูซูฟู ไมไรลี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดสระแก้ว ส่วนการที่ทหารส่งตัวนายอาเดม คาราดัก ผู้ถูกควบคุมตัวได้ที่พูลอนันต์อพาร์ทเมนต์ย่านหนองจอกให้ตำรวจนั้นตนยังไม่ทราบรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ถึงมูลเหตุการก่อเหตุ ต้องขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
“เดี๋ยวผมจะไปคุยกับนายยูซูฟู คนนี้คือไฮไลต์ คือกุญแจดอกใหญ่ ตอนนี้ต้องต่อจิ๊กซอว์ไปทีละตัว ตอนนี้ได้เยอะแล้ว ต้องขยายไปเรื่อยๆ เดี๋ยวต้องไปเจอนายยูซูฟู ตอนนี้ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด ผมเชื่อว่าชายคนนี้อยู่ในบริเวณศาลพระพรหม ร่วมก่อเหตุในจุดนั้นแน่นอน ส่วนชายเสื้อเหลืองที่พบว่าวางระเบิดก็ต้องไปคุยกับนายยูซูฟู อาจได้อะไรจากตรงนี้ ส่วนนายอาเดมนั้นมีความเชื่อมโยงแต่แรก ที่เราตามปิดล้อมตรวจค้นขยายผลก็เจอของกลางเป็นอุปกรณ์ทำระเบิดทั้งหมด” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มือระเบิดที่เป็นชายเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้าที่ตำรวจขออนุมัติออกหมายจับนั้นเชื่อว่ายังอยู่ในประเทศหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบยาก ถามว่านายอาเดมคนแรกที่คุมตัวได้ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. แต่ก็ยังอยู่เฉยๆ ไม่หนีไปไหน ไม่น่าจะเป็นแค่คนเฝ้าของ ตนเชื่อว่าทั้งสอแงคนที่คุมตัวไว้แล้วอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยซ้ำ จากแนวทางการสืบสวนพบอย่างนั้น
ส่วนกรณีที่ค้นพบสารประกอบยาเคในบ้านเช่าในซอยราษฎร์อุทิศ 34 ที่ น.ส.วรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นผู้เช่าไว้นั้น รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้ข่าวเหมือนกันแต่ยังไม่ได้คุยกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ส่วนกรณี น.ส.วรรณานั้นเชื่อมั่นว่าการที่ศาลอนุมัติหมายจับให้ต้องมีหลักฐานมากเพียงพอที่จะชี้ว่าร่วมกระทำผิด แต่การจะมาพิสูจน์ความจริงอย่างไรนั้นเป็นสิทธิของ น.ส.วรรณา ที่ทราบคือเป็นผู้เช่าห้องและมีชายชาวตุรกีที่ถูกออกหมายจับเป็นสามี
เมื่อถามว่าตอนนี้มีตัวละคร 10 คนแล้ว ยังมีเพิ่มอีกหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มีแน่นอน ขบวนการนี้ใหญ่พอสมควร ตอนนี้คดียังซ้อนกันอยู่
“อย่างที่ผมทำงานสืบสวนมาคดีระเบิดที่ราชประสงค์ สาทร ไปจนถึงการเจอของกลาง ขยายผลไปได้คนนั้นคนนี้มา ยังเหลื่อมทับซ้อนกันอยู่ ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร หรือเกี่ยวกับอีกเรื่องหนึ่ง แล้วสื่อบางสื่อเข้าใจว่าอีกเรื่องหนึ่ง มันลำบาก คดีระเบิดกับการขนคนไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วมีคนไทยเกี่ยวข้อง ตอนนี้กำลังดูว่าเกี่ยวข้องกัน เรื่องเดียวกันหรือเรื่องมันซ้อนกัน การให้ข่าวต้องรู้จริง เรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อน” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว และว่าคดีนี้ไม่หนักใจ แม้จะขึ้นเป็น ผบ.ตร.แล้วเจอคดีนี้ก็ไม่เป็นไร เป็นรอง ผบ.ตร.ก็ต้องทำคดีนี้อยู่แล้ว