xs
xsm
sm
md
lg

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต 4 จำเลยยิงเอ็ม 79 ใส่ กปปส.หน้าบิ๊กซีราชดำริ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTV ผู้จัดการ - ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาประหารชีวิต 4 จำเลยยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่บิ๊กซีราชดำริ ระหว่างชุมนุม กปปส.เดือนกุมภาพันธ์ปี 57 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 21 คน แต่คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมชดใช้ค่าเสียหายผู้บาดเจ็บกว่า 5 แสนบาท

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 วันที่ 4 ก.ย.58 เวลา 09.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.3734/2557พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง อายุ 45 ปี , นายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี , นายสุนทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี และนายทวีชัย วิชาคำ อายุ 39 ปี เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดต่อชีวิตฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ทำร้ายร่างกาย , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และความผิด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.57 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.57 เวลากลางวัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงได้ออกประกาศศูนย์รักษาความสงบ ฉบับที่ 2/2557 ลงวันที่ 23 ม.ค.57 เรื่อง ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน ภายในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนำอาวุธ สิ่งเทียมอาวุธ เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด สิ่งใดที่อาจนำมาใช้ได้อย่างอาวุธฯ หรือสิ่งอื่นใดในทำนองเดียวกันที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของบุคคลใด รวมถึงเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนหรือของทางราชการ เข้าไปในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ประกาศ ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ม.11มีผลใช้บังคับอยู่ จำเลยทั้งสี่ กับพวกอีก 3 คนซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมีเครื่องยิงลูกกระสุนระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร แบบเอ็ม 79 ยาว 28 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง , ลูกระเบิดยิงชนิดระเบิดสังหาร (HE) ขนาด 40 มิลลิเมตร จำนวนเท่าใดไม่ปรากฏชัด ซึ่งเป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดแบบที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ และเป็นยุทธภัณฑ์ทางทหาร ตามประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ข้อ 2.1.2 ประเภทกระสุน วัตถุระเบิด ส่วนประกอบและอุปกรณ์ และข้อ 2.1.2.5 ลูกระเบิดที่นายทะเบียนจะอนุญาต ให้ไม่ได้ไว้ในความครอบครองของจำเลยโดยจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายและไม่ได้รับการยกเว้นใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

โดยจำเลยทั้งสี่ กับพวก ทราบถึงประกาศ ศูนย์รักษาความสงบดังกล่าวแล้ว ได้บังอาจนำและพาเครื่องยิงลูกกระสุนระเบิด จำนวน 1เครื่อง ลูกระเบิดยิง ชนิดระเบิดสังหาร (HE) จำนวนเท่าใดไม่ปรากฎชัด ที่เป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ นำอาวุธดังกล่าวที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน หรือของทางราชการ ติดตัวไปที่บริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. ที่เป็นพื้นที่ในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ และบริเวณพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในท้องที่ระกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และเป็นพื้นที่ ที่ ผบ.ตร หัวหน้าผู้รับผิดชอบในเขตท้องที่ตามประกาศดังกล่าว ได้ออกประกาศห้ามนำอาวุธปืนออกนอกเคหสถานภายในเขตพื้นที่ และห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดเข้าไปในพื้นที่ ตามประกาศศูนย์รักษาความสงบ ฉบับที่ 2/2557

ซึ่งจำเลยทั้งสี่ กับพวก ไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดติดตัวและโดยไม่มีเหตุสมควร อีกทั้งไม่ใช่กรณีที่ต้องมีอาวุธปืนเครื่องกระสุน และวัตถุระเบิดติดตัว โดยจำเลยก็ไม่ใช่เจ้าพนักงาน และไม่ได้รับการยกเว้นใดๆ ตามกฎหมาย จึงเป็นการฝ่าฝืนประกาศและกฎหมาย

นอกจากนี้ จำเลยทั้งสี่ กับพวกมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้ร่วมกันใช้เครื่องยิงลูกกระสุนระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร แบบเอ็ม 79 ยิงลูกระเบิดชนิดสังหาร(HE) ขนาด 40 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อเกิดการระเบิดขึ้นมีรัศมีฉกรรจ์ 5 เมตร จากจุดระเบิด ยิงไปยังกลุ่มประชาชนผู้ชุมนุมทางการเมืองซึ่งใช้ชื่อว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส) ที่มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก บริเวณสี่แยกราชประสงค์ต่อเนื่อง มาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.

โดยกระสุนปืนที่จำเลยทั้งสี่กับพวก ยิงไปดังกล่าวตกใส่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ ทำให้เกิดระเบิดขึ้นจำนวน 1 ครั้ง สะเก็ดระเบิดได้กระจายถูกร่างกายของผู้เข้าร่วมชุมนุมและประชาชนทั่วไปที่อยู่บริเวณดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย อีกทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่อาจประกอบกรณียกิจได้ตามปกติ อีก 9 ราย และมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ด้วยจำนวน 12 ราย ขณะที่การระเบิดดังกล่าว เป็นเหตุให้แผงร้านค้าและรถสามล้อโดยสารหรือรถตุ๊กตุ๊ก เหตุเกิดที่แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร และแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน จึงขอศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฏหมาย และขอสั่งริบเครื่องยิงลูกกระสุนระเบิด เอ็ม 79 จำนวน 1 เครื่อง และรถยนต์ จำนวน 3 คัน ของกลาง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า หลักฐานที่จำเลย นำสืบมา ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบได้ จึงพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่ มีความผิดตามฟ้อง ให้ประหารชีวิตสถานเดียว

แต่คำให้การของจำเลย เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสี่ไว้ตลอดชีวิต และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนผู้บาดเจ็บ 534,700 บาท ด้วย





หนึ่งในผู้ต้องหายิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ ระหว่างการชุมนุม กปปส. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น