“พล.ต.ท.เรวัช” แถลงจับกุมคดีค้ายาบ้า 3 คดี รวบ 7 ผู้ต้องหา ยึดของกลางยาบ้าร่วม 200,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืนจำนวนหนึ่ง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (28 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส. พ.ต.อ.วรวิทย์ไวถนอมสัตว์ รอง ผบก.ปส.1 (หน.สนง.ผบช.ปส.) พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะ รอง ผบก.ปส.2 (โฆษก บช.ปส.) ได้ร่วมกันอำนวยการสืบสวนเร่งรัดผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ปรากฏผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญจำนวน 3 ราย
คดีที่ แรก
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายชัยวัฒน์ หรือ กอล์ฟ ชาติวงษ์ อายุ 27 ชาว จ.นนทบุรี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 174,000 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 590 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน กว 3366 กทม. อาวุธปืนพกสั้น กึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม. ยี่ห้อนอริงโก พร้อมซองกระสุน และลูกกระสุนปืน 10 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และของกลางอื่นอีกหลายรายการ โดยสามารถจับกุมได้ที่ลานจอดรถใต้ถุนอาคารชุดฌ็องเซลิเซ่ อเวนิว บี 62 หมู่ 9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต่อเนื่อง ห้องเลขที่ 620 ชั้น 6 โครงการดับเบิลเลคคอนโดมิเนียม เลขที่ 83/105 หมู่ที่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี เมื่อ 23 สิงหาคม 2558 ระหว่างเวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น.
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า นายกอล์ฟ มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จว.นนทบุรี และใกล้เคียงพักอาศัยอยู่อาคารชุดฌ็องเซลิเซ่ อเวนิว บี จึงเฝ้าสืบสวนติดตามพฤติการณ์กระทั่งวันที่ 23 ส.ค. 58 เวลา 12.00 น. พบนายกอล์ฟกำลังเดินมาที่รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ติดป้ายทะเบียน กว 3366 กทม. จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบอาวุธปืนอยู่ในรถยนต์ จึงจับกุมแล้วควบคุมตัวเข้าตรวจค้นห้องพัก ห้องเลขที่ 630 ชั้น 6 ดับเบิลเลค คอนโดมิเนียม ของกลางดังกล่าว จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2
พ.ต.อ.ชยะพจน์ หาสุณหะ พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะ รอง ผบก.ปส.2 เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.2 (นปส. อุดรธานี) ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอุดม สุภาพันธ์ หรือ ดม อายุ 32 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 9 มัดรวมประมาณ 18,000 เม็ดโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 202 - 203 ถนนเส้น 212 บุ่งคล้า - บ้านแพง หมู่ที่ 10 บ้านท่าไร่ไทยเจริญ ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จว.บึงกาฬ เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.2 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3
พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.วรวิทย์ไวถนอมสัตว์ รอง ผบก.ปส.1 (หน.สนง.ผบช.ปส.) พ.ต.อ.นนทวรรธน์ อัมรานนท์ ผกก.1 บก.ปส.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.1 ได้ทำการตรวจค้นตัว นายยุรนันท์ ขันธ์คำ อายุ 25 ปี ชาว จ.ชัยนาท ที่บริเวณซอยพหลโยธิน 33 แยก 1 - 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นพบ ยาบ้าจำนวน 35 เม็ด เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องเช่าเลขที่ 305/81 ม.อาทิตย์ ซ.วิภาวดี 60 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 237 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในห้องพักดังกล่าว จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาอีกจำนวน 4 คน คือ น.ส.เล็ก หรั่งศรีสุข อายุ 42 ปี นายธรรมนูญ พุกเจริญ อายุ 35 ปี นายชัยวัฒน์ ปรีเกษม อายุ 20 ปี และ น.ส.อรอุมา นิ่มทองคำ อายุ 34 ปี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า “มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า การจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดครั้งนี้นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ ผู้ค้ายาเสพติดรายกลางซึ่งสามารถจับกุมได้ในพื้นที่ จ.นนทบุรี สืบเนื่องจากมีชาวบ้านได้ร้องเรียนว่ากลุ่มผู้ค้าดังกล่าวได้เข้าไปจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปจับกุม และอีกส่วนคือ กลุ่มผู้ค้ารายย่อยซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้าที่พัฒนาตนเองมาจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้า โดยสามารถจับกุมได้ในพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นผลมาจากการแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านและประชาชนเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ได้ทางรัฐบาลได้มุ่งกวดขันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดลงไปจับกุมผู้ค้าระดับชุมชนให้มากขึ้นเนื่องจากพบว่าตามแหล่งชุมชนยังมีผู้ค้ารายย่อยจำนวนมาก ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมกับขบวนการค้ายาเสพติด ทำให้แก้ปัญหาได้อย่างยากลำบาก จึงอยากจะวอนขอประชาชนหากพบว่ามีผู้ใด หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้ทันที เพื่อที่จะเข้าไปกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไป