ผบ.ตร.ตรวจแยกราชประสงค์อีกรอบตอนเช้า ยังไม่ยืนยันเป็นระเบิดชนิดใด เร่งตรวจสอบภาพวงจรปิด ยอมรับเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุได้น้อยเพราะระเบิดเผาไหม้ทุกอย่างไปหมด เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ยืนยันการข่าวไม่บกพร่อง แต่ยอมรับพื้นที่กว้าง เฝ้าระวังลำบาก ขณะคนร้ายมุ่งก่อเหตุตลอดเวลา พร้อมขอโทษประชาชนและเสียใจต่อผู้บาดเจ็บด้วย
วันนี้ (18 ส.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจวัตถุระเบิด หรือ EOD เจ้าหน้าที่ทหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ หลังคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณริมรั้วของศาลพระพรหม เอราวัณ โดยล่าสุดตำรวจและทหารยังคงตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วย EOD และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาหลักฐาน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่ยืนยันได้แน่ชัดว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดชนิดใด แต่ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแรงดันสูงมุ่งหมายเอาชีวิตอย่างแน่นอน เนื่องจากดูจากการเลือกสถานที่และช่วงเวลาเกิดเหตุ ส่วนการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ทั้งของ กทม.และเอกชน โดยขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในที่เกิดเหตุเก็บพยานหลักฐานได้น้อยเนื่องจากการทำงานของระเบิดสมบูรณ์ เผาไหม้ทุกอย่างหมดไป
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะต้องรอผลการสอบสวนรอพยานหลักฐานทุกด้าน ยังไม่ขอด่วนสรุปว่าเป็นคนไทยหรือต่างชาติที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งนี้ มั่นใจว่าตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีการกำชับสั่งการให้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ และในเวลาประมาณ 07.00-07.30 น. นายกรัฐมนตรีจะประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวด้วยว่า การข่าวของเจ้าหน้าที่ไม่บกพร่อง และมีการประสานหน่วยงานความมั่นคงทั้งในและต่างประเทศ แต่ยอมรับว่าพื้นที่กว้าง การเฝ้าระวังทำด้วยความยากลำบาก ส่วนผู้ก่อเหตุได้มุ่งก่อเหตุตลอดเวลา ทำให้มีช่องว่าง พร้อมขอประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุ และขอโทษประชาชน รวมถึงขอแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.อ.สมยศได้เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เพื่อประชุมนายตำรวจระดับสูงและผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันจะมีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด