กองปราบปรามตามรวบพยาบาลสาวเปิดห้างหุ้นส่วนจำกัดขายเครื่องมือแพทย์ที่อุดรธานี ชักชวนคนมาร่วมลงทุนจ่ายเงินปันผลร้อยละ 10 มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาลงกว่า 4 ล้าน ก่อนปิดกิจการหนี เจ้าตัวโบ้ยอดีตแฟนหนุ่มเป็นตัวการ ก่อนหาเรื่องทะเลาะแล้วขอแยกทางกัน
วันนี้ (12 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี มอบหมายให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังร่วมกับตำรวจ สน.บางกอกน้อย เข้าจับกุม น.ส.มะลิษา ศรีนานาม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 6 ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 362/2557 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน2557 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จับกุมได้ที่ริมถนนหน้า รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
พ.ต.ท.ต่อศักดิ์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2556 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับอดีตแฟนหนุ่มเปิดห้างหุ้นส่วนจำกัด มะลิษา เทคโนโลยี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และชักชวนให้ผู้ที่สนใจร่วมลงทุนในธุรกิจจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงินปันผลร้อยละ 10 ของเงินที่นำมาลงทุนทำธุรกิจ ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อนำเงินมาลงทุนกับผู้ต้องหากว่า 20 ราย รวมมูลค่าเสียหายกว่า 4 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ในระยะแรกทางผู้ต้องหาและอดีตแฟนหนุ่มได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ร่วมลงทุนตามปกติอย่างที่ได้ตกลงกันไว้ แต่ภายหลังกลับประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน จึงไม่ได้จ่ายเงินปันผลและปิด หจก.หลบหนีไป ก่อนจะถูกแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนก็พบว่าผู้ต้องหาได้มาอยู่แถวบริเวณดังกล่าวจึงนำกำลังจับกุม
สอบสวน น.ส.มะลิษาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ได้สำเร็จการศึกษาด้านการพยาบาลจากสถาบันแห่งหนึ่ง ก่อนเข้าทำงานในตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพที่ รพ.บ้านดุง ระหว่างนั้นได้รู้จักกับแฟนหนุ่มซึ่งชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจนี้ โดยขอให้ตนจดทะเบียน หจก.ขึ้นมาแล้วเขาจะเป็นฝ่ายจัดการเองทั้งหมด ตนเห็นว่าเป็นช่องทางที่จะสร้างรายได้เพื่อสร้างครอบครัวร่วมกันจึงตกลงทำตาม โดยตนมีหน้าที่ชักชวนและรับเงินที่ได้มาจากเพื่อนพยาบาลที่ทำงานด้วยกัน รวมทั้งคนรู้จักที่สนใจลงทุน ก่อนนำเงินทั้งหมดให้อดีตแฟนหนุ่ม ที่ผ่านมาก็มีการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์จำหน่าย และมีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ร่วมลงทุน กระทั่งเมื่อปี 2557 อดีตแฟนหนุ่มได้บอกกับตนว่าธุรกิจประสบปัญหาทางการเงินทำให้หมุนเงินไม่ทันไม่สามารถหาเงินมาจ่ายปันผลให้หุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนได้ ครั้งแรกตนก็ไม่ได้เอะใจ ยังคิดจะหาทางแก้ปัญหากับอดีตแฟน ภายหลังเขากลับหาเรื่องทะเลาะและเป็นฝ่ายขอเลิกรา ต่อมาก็ได้หนีหน้าหายไปโดยไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ต้องปิดตัวธุรกิจลง และไม่ทราบมาก่อนว่าถูกออกหมายจับ โดยหลังจากลาออกจากที่ทำงานเก่าแล้วก็มาสมัครเข้าทำงานเป็นพยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน กทม. ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวดังกล่าวและต้องถูกให้ออกจากงานทันทีตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนอดีตแฟนหนุ่มของผู้ต้องหานั้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป