วันนี้ (23 มิ.ย.) เครือข่ายผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ นำโดยนางอังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาพยาบาล ยื่นหนังสือต่อนางทัศนา บุญทอง รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คนที่ 2 กรณีความเหลื่อมล้ำในระบบบริการสาธารณสุขไทย
นางอังคณา กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีพยาบาลวิชาชีพ 170,790 คน โดยจำนวน 132,362คน ปฏิบัติงานในระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งพบว่าโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปมีความต้องการพยาบาลวิชาชีพ 54,474 คน แต่มีอัตรากำลังเพียง 40,326 คน โรงพยาบาลชุมชนมีความต้องการพยาบาลวิชาชีพ 56,627 คน มีอัตรากำลัง 46,181 คน ซึ่งรวมพยาบาลที่ยังขาดในโรงพยาบาลทั้ง 3 ระดับ จำนวน 24,594 คน นอกจากนั้น ตามโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ต้องการพยาบาลวิชาชีพกว่า 1,000 แห่ง ยังไม่มีพยาบาล ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนพยาบาล ที่ยังไม่ได้รีบการแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งที่ความต้องการพยาบาลมีเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่การเพิ่มกำลังไม่ทันต่อความต้องการของประชาชน เนื่องจากสิ่งที่วิชาชีพการพยาบาลต้องเผชิญมี 3 ลักษณะ คือ ความเหลื่อมล้ำในเรื่องงาน ความเหลื่อมล้ำในเรื่องค่าตอบแทน และความเหลื่อมล้ำในด้านการจ้างงานและความก้าวหน้าซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น
ทั้งนี้ จึงขอเสนอแนวทางเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้กับผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คือการได้รับสิทธิในการบรรจุเป็นข้าราชการ การกำหนดบันไดอาชีพที่เท่าเทียม ยกเลิกการกำหนดโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำในวิชาชีพ การพิจารณาปรับอัตราค่าตอบแทนที่เป็นธรรมควรทบทวนค่าตอบแทนเหมาจ่าย และค่าตอบแทนการปฏิบัติงานตามลักษณะพื้นที่โดยด่วน และปฏิรูประบบบริหารจัดการให้พยาบาลได้ทำหน้าที่พยาบาลได้เต็มศักยภาพ เพื่อคุณภาพการดูและประชาชน
น.ส.ทัศนา กล่าวว่า รัฐบาลและ สปช.ได้ให้ความสำคัญในการปฏิรูปความเหลื่อมล้ำในสังคม และตนในฐานะที่เป็นพยาบาลวิชาชีพ เห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทางคณะกรรมาธิการปฏิรูประบบสาธารณสุขจะได้นำผลการศึกษานี้ไปวิเคราะห์และผนวกกับรายงานของคณะกรรมาธิการเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
นางอังคณา กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีพยาบาลวิชาชีพ 170,790 คน โดยจำนวน 132,362คน ปฏิบัติงานในระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งพบว่าโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปมีความต้องการพยาบาลวิชาชีพ 54,474 คน แต่มีอัตรากำลังเพียง 40,326 คน โรงพยาบาลชุมชนมีความต้องการพยาบาลวิชาชีพ 56,627 คน มีอัตรากำลัง 46,181 คน ซึ่งรวมพยาบาลที่ยังขาดในโรงพยาบาลทั้ง 3 ระดับ จำนวน 24,594 คน นอกจากนั้น ตามโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ต้องการพยาบาลวิชาชีพกว่า 1,000 แห่ง ยังไม่มีพยาบาล ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนพยาบาล ที่ยังไม่ได้รีบการแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งที่ความต้องการพยาบาลมีเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่การเพิ่มกำลังไม่ทันต่อความต้องการของประชาชน เนื่องจากสิ่งที่วิชาชีพการพยาบาลต้องเผชิญมี 3 ลักษณะ คือ ความเหลื่อมล้ำในเรื่องงาน ความเหลื่อมล้ำในเรื่องค่าตอบแทน และความเหลื่อมล้ำในด้านการจ้างงานและความก้าวหน้าซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น
ทั้งนี้ จึงขอเสนอแนวทางเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้กับผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คือการได้รับสิทธิในการบรรจุเป็นข้าราชการ การกำหนดบันไดอาชีพที่เท่าเทียม ยกเลิกการกำหนดโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำในวิชาชีพ การพิจารณาปรับอัตราค่าตอบแทนที่เป็นธรรมควรทบทวนค่าตอบแทนเหมาจ่าย และค่าตอบแทนการปฏิบัติงานตามลักษณะพื้นที่โดยด่วน และปฏิรูประบบบริหารจัดการให้พยาบาลได้ทำหน้าที่พยาบาลได้เต็มศักยภาพ เพื่อคุณภาพการดูและประชาชน
น.ส.ทัศนา กล่าวว่า รัฐบาลและ สปช.ได้ให้ความสำคัญในการปฏิรูปความเหลื่อมล้ำในสังคม และตนในฐานะที่เป็นพยาบาลวิชาชีพ เห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทางคณะกรรมาธิการปฏิรูประบบสาธารณสุขจะได้นำผลการศึกษานี้ไปวิเคราะห์และผนวกกับรายงานของคณะกรรมาธิการเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป