“แม่น้องเกด-พ่อน้องเฌอ” เข้าพบ “อธิบดีดีเอสไอ” ทวงถามความคืบหน้าคดีคนตาย 99 ศพระหว่างสลายการชุมนุมปี 53 และกรณีคำพูดถ้าทหารใช้กระสุนจะมีคนตายมากกว่านี้ ด้านอธิบดีเอสไอยันไม่เคยพูดเรื่องดังกล่าว
วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายพันศักดิ์ ศรีเทพ หรือพ่อน้องเฌอ และนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด อาสาสมัครพยาบาล ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 เดินทางเข้าพบนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อสอบถามกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อความที่ดีเอสไอระบุว่า ถ้าทหารใช้กระสุนจริงในการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 จะมีคนตายมากกว่านั้น เนื่องจากสิ่งที่เสนอออกไปค่อนข้างมีผลกระทบต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าของคดี 99 ศพว่ามีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว และจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ทั้งนี้ ไม่อยากให้คดีดังกล่าวกลายเป็นเรื่องการเมือง เราจึงมาสอบถามความคืบหน้าตามระบบปกติ
นางสุวณากล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนในการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 นั้น ยืนยันว่าตนไม่เคยระบุถึงเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องของสำนวนคดีไม่สามารถนำสิ่งเหล่านี้มาพูดได้ ตนก็ได้มีการแก้ข่าวไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการให้ข่าวของตนระบุเพียงการทำงานที่ทางดีเอสไอทำงานร่วมกับตำรวจ และอัยการ และไม่ได้มีการระบุถึงกรณีการใช้กระสุนยางแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในส่วนความคืบหน้าของคดี 99 ศพ ภายหลังที่มีการตั้งคณะทำงานชุดใหม่นั้นได้มีการประชุมและทำงานร่วมกับตำรวจและอัยการอยู่ตลอด ในจำนวนคดีที่เป็นเลขคดีพิเศษที่ค้างอยู่ประมาณ 40 คดี ส่วนใหญ่ในคดีที่ค้างอยู่มีแนวโน้มที่จะเสนอให้งดการสอบสวน เนื่องจากมีการสอบสวนมาระยะเวลาหนึ่งและยังไม่พบผู้กระทำความผิด แต่หลังจากนี้ หากสามารถจับกุมผู้ต้องหาหรือพบหลักฐานการกระทำความผิดก็สามารถนำสำนวนกลับมาสืบสวนใหม่ได้อีกซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายปกติ
นางสุวณากล่าวต่อว่า สำหรับกระบวนการสอบสวนคือกระบวนการหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ตามกฎหมายถ้าได้สอบสวนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วยังไม่สามารถทราบตัวผู้กระทำความผิดได้ก็ให้เสนองดการสอบสวนได้ แต่ผลการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดยังคงดำเนินการอยู่ ไม่ใช่ว่าเมื่องดการสอบสวนแล้วคดีจะต้องจบไปด้วย
