ดีเอสไอ-ตร.เผยสำนวนคดี 99 ศพที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมเมื่อปี 53 คืบหน้าแล้ว 90% มั่นใจสามารถสรุปส่งอัยการเดือน ส.ค.นี้
วันนี้ (29 ก.ค.) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยถึงการสอบสวนคดี99ศพที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนได้มีการหารือกันเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนคดี 99 ศพ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 เพื่อดูความสมบูรณ์ของสำนวน และเตรียมเสนอความเห็นให้อัยการสั่งฟ้องภายในเดือน ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม สำนวนทั้งหมดจะต้องถูกส่งกลับมายังตนอีกครั้ง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อลงนามในสำนวนดังกล่าว ก่อนส่งให้อัยการฟ้องต่อไป
รายงานข่าวจากพนักงานสอบสวนในคดี 99 ศพ แจ้งว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งที่ 68/2558 ลงวันที่ 2 มี.ค.2558 เรื่องการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนตำรวจ ให้พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมสอบสวนกับนางสุวณา เพื่อวางกรอบแนวทางการสอบสวนในคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จนั้น วันนี้ชุดคณะทำงานทั้ง 3 ชุด ซึ่งแบ่งกลุ่มการทำงานตามพื้นที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1. พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีดีเอสไอ และ ผบก.น.2 2.พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีเอสไอ และ ผบก.น.1 และ 3. พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ และผบก.น.5 ได้นำสำนวนการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดไปประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของสำนวนคดีว่ามีความเรียบร้อยแล้วหรือไม่ พร้อมทั้งดูรายงานการสอบสวน และลงความเห็นทางคดี เพื่อเตรียมส่งให้อัยการภายในต้นเดือน ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หากสำนวนดังกล่าวยังไม่มีความเรียบร้อย ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องกลับมาหาพยานหลักฐานและสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับสำนวนคดีนั้นส่วนใหญ่มีความเรียบร้อยและพยานหลักฐานครบถ้วนกว่าร้อยละ 90 จึงมั่นใจว่า จะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ภายในต้นเดือน ส.ค.นี้ ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ทั้งที่บริเวณแยกคอกวัว บริเวณถนนราชปารภ บริเวณถนนพระราม 4 และบริเวณอื่นๆ ที่มีการเสียชีวิตของประชาชนและทหาร โดยเจ้าหน้าที่ทหารส่วนใหญ่ที่พนักงานสอบสวนเรียกเข้ามาให้ปากคำนั้น ยืนยันว่าขณะปฏิบัติหน้าที่ในวันและเวลาดังกล่าว เป็นไปตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และยืนยันด้วยว่า ใช้กระสุนยางเพียงอย่างเดียว ไม่มีการใช้กระสุนจริงแต่อย่างใด สำหรับ การสืบสวนสอบสวนดังกล่าว เป็นไปตามขั้นตอนปกติของการสอบสวน ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีก็ได้กำชับให้เร่งสรุปสำนวนคดีนี้ให้เสร็จโดยเร็ว และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
