“พล.ต.อ.เรืองศักดิ์” เผยคืบคดี “เสี่ยสมยศ” อดีตเจ้าของคาเฟ่พระราม 9 สอบพยานไป 31 ปาก ตอนนี้เร่งติดตามผลดีเอ็นเอ รวมทั้งนำหัวกระสุนไปตรวจสอบ ยังคงเป็น 3 ประเด็นหลักเกี่ยวกับการพนัน การเช่าทรัพย์สิน และเรื่องวื่งเต้นคดี คืบแล้วกว่า 80%
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ สน.คลองตัน พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.อ.จิรภัทร ปานลักษณ์ พงส.ผทค.สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.5 บชน. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสังหารนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เสียชีวิตในลานจอดรถร้านเฮงหูฉลาม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อค่ำวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีและตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวนคดี ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุถึงเวลานี้เป็นเวลา 42 วันแล้ว และได้มีการสอบพยานไปทั้งหมด 31 ปาก โดยหลังจากนี้จะเร่งติดตามผลทางนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอัตลักษณ์บุคคล (ดีเอ็นเอ) รวมทั้งการนำหัวกระสุนไปตรวจสอบกับคดีเก่าที่เคยเกิดขึ้น ว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุนั้นเคยก่อเหตุในคดีอื่นหรือไม่ สำหรับกรอบระยะเวลาในการทำงานนั้น ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำในเรื่องของความรอบคอบของคดีมากกว่าระยะเวลาในการทำงาน โดยประเด็นหลักยังคงเป็น 3 ประเด็น คือ เรื่องเกี่ยวกับหนี้พนัน, การเช่าทรัพย์สิน และเรื่องที่ผู้ตายรับวิ่งเต้นทำคดี ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 70-80 แล้ว ส่วนในรายละเอียดเชิงลึกนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า หลังจากการประชุมทางเจ้าหน้าที่ได้พุ่งไปที่มือปืนจากซุ้มมือปืนในภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ซึ่งได้ประสานให้ทางกองปราบลงพื้นที่สืบส่วนในเชิงลึกอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น ยังต้องรอดูพยานหลักฐานก่อน โดยขณะนี้ยังไม่ได้ออกหมายจับเพิ่มเติมจากที่เคยออกเบื้องต้นก่อนหน้านี้
ด้าน พ.ต.อ.สุพัชรกล่าวว่า ในส่วนของการขัดแย้งทั้ง 3 ประเด็นนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ทั้ง 3 ประเด็น ในส่วนที่ผู้ตายเคยรับวิ่งเต้นคดีนั่น มีจำนวนหลายคดีมากและมีความเชื่อมโยงไปถึงตัวละผู้เกี่ยวข้องประมาณ 100 คน ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการคัดแยกผู้ที่คาดว่าจะไม่เกี่ยวข้องการการเสียชีวิตของผู้ตายออกไปด้วยความรอบคอบ ในส่วนของประเด็นความขัดแย้งเกี่ยวกับกรณีที่ดินย่านนครปฐมของครอบครัวอดีตเจ้าพ่อคาเฟ่อีกคนนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตัดออกไปก่อน เพราะคาดว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามือปืนน่าจะมาจากซุ้มมือปืนทั้ง 2 แห่ง โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สส.กก.5 บช.น.ได้มีการประสานข้อมูลการสืบสวนกับทางกองปราบปรามตลอดมา อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีการจ้างวานฆ่าซึ่งจะต้องหาตัวมือปืนที่ลงมือก่อเหตุให้ได้ แล้วนำตัวมาสอบสวน หลังจากทำการสอบสวนแล้วจะต้องนำคำให้การมาเปรียบเทียบกับคำให้การของพยานทั้งหมดที่สอบไปก่อนหน้านี้ทั้ง 31 ปาก เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่าใครให้การจริงหรือเท็จ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตายหรือไม่ โดยทุกขั้นตอนการสืบสวนจะต้องมีใช้ความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมาก