ผบ.ตร.นั่งหัวโต๊ะร่วมคลี่คลายคดีการเสียชีวิต “เสี่ยชูวงษ์” พรุ่งนี้ ชุดสืบสวนพบพิรุธ “บรรยิน” รู้จักและติดต่อพูดคุยกับพริตตี้และมาร์เกตติ้งที่รับโอนหุ้นสาวบ่อยครั้ง และเคยเดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน อีกทั้งโบรกเกอร์ที่ดูแลหุ้นผู้ตายก็ไม่เคยรู้เรื่องการโอนหุ้น
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต และประเด็นการโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ว่า ระหว่างนี้กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนในประเด็นที่ยังสงสัย อาทิ เรื่องการโอนหุ้น และอุบัติเหตุให้ครบถ้วนรอบด้านซึ่งในเวลานี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 ส.ค. เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเป็นประธานในการประชุมร่วมระหว่างพนักงานสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปราม และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อวางแนวทางและนำหลักฐานที่แต่ละฝ่ายมีมารวบรวม เพื่อหารายละเอียดที่ยังเป็นที่สงสัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสำนวนการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
ที่กองปราบปราม รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวนชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อมูลความเชื่อมโยงในส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้ และแคดดี้สนามกอล์ฟ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ และนายชูวงษ์ กระทั่งทีมสืบสวนพบข้อมูลสำคัญว่าขณะที่นายชูวงษ์มีชีวิตและเรียนหลักสูตรวิทยาตลาดทุน กิจการเพื่อสังคม หรือ วตท. รุ่นที่ 20 ได้มีการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศทีมสืบสวนจึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้าออกประเทศพบว่า ในวันเดินทางนั้นนายชูวงษ์ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาและลูกสาว ในส่วนของ พ.ต.ท.บรรยินนั้นพบว่าได้เดินทางไปต่างประเทศกับ น.ส.อุรชา สอดคล้องกับคำให้การของ น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ และนายกันต์ แซ่ตั๊ง ลูกชายนายชูวงษ์
นอกจากนี้ ทีมสืบสวนชุดคลี่คลายคดียังได้ตรวจสอบพบข้อมูลว่า พ.ต.ท.บรรยิน รู้จักและมีการติดต่อพูดคุยกับ น.ส.อุรชา และ น.ส.กัญฐณา บ่อยครั้ง ต่างจากนายชูวงษ์ที่ไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ กับหญิงสาวสองคนนี้ โดยในส่วนของการติดต่อกับสองสาวนั้น พ.ต.ท.บรรยินให้การต่อพนักงานสอบสวนว่า เป็นเพราะนายชูวงษ์ได้ให้ พ.ต.ท.บรรยินเป็นผู้ติดต่อสองสาวให้ ทั้งนี้ในชุดสืบสวนของกองปราบปรามกำลังหาพยานหลักฐานที่แน่ชัดเนื่องจากยังไม่มีใครยืนยันในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนายชูวงษ์กับสองสาวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าหน้าที่จากตลาดหลักทรัพย์มาให้ข้อมูลขั้นตอนการซื้อขายโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้นถึงแม้ว่าจะถือว่าโอนสำเร็จแล้ว แต่ตามหลักการถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด เพราะการโทรศัพท์เพื่อโอนหุ้นนั้นไม่สามารถต่อโทรศัพท์คุยสามสายได้ รวมทั้งจากการสอบสวน น.ส.อุรชา ที่ให้การว่านายพิสิษฐ์ ตันวนรัตน์สกุล หรือโจ๊ก เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัท หลักทรัพย์เออีซี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแลหุ้นของนายชูวงษ์ รับรู้เรื่องการโอนหุ้นนั้น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนนายโจ๊ก โบรกเกอร์แล้วพบว่าไม่เคยทราบเรื่องการโอนหุ้นมาก่อน
ทั้งนี้ คำให้การทั้งคู่ถือว่าขัดแย้งกันอยู่ ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังหาพยานหลักฐานต่างๆ มาเพื่อทำเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนต่อไป อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ออกหมายจับใคร โดยทางชุดสืบสวนกองปราบปรามจะเข้าร่วมประชุมกับทางพนักงานสอบสวนของ บช.น.ในวันพุธที่ 5 ส.ค.นี้ ตามคำสั่งของ พล.ตท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. เพื่อจะได้วางแนวทางการทำงานต่อไป