xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.มาเลย์มาเอง! ตามคดีอดีตผู้บริหาร บ.น้ำมัน เผยข้อมูลลับเขย่า รบ.มาเลเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.มาเลเซีย เข้าพบ “สมยศ” ติดตามความคืบหน้าคดีอดีตผู้บริหารบริษัทน้ำมันชาวสวิส เปิดข้อมูลลับกระทบรัฐบาลมาเลเซีย ขณะที่ ผบ.ตร. ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือเกี่ยวกับข้อมูลของคดี แต่ต้องประสานผ่านขั้นตอนทางการทูตอย่างถูกต้อง

วันนี้ (23 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตันสรี คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย พร้อมคณะ เข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อหารือกรณีที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราบ จับกุม นายชาเวีย แอนเดร จัสโต อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาชาวสวิตเซอร์แลนด์ อดีตผู้บริหารบริษัท ปิโตรซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในข้อหาความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามรีดเอาทรัพย์ จากบริษัท ปิโตรซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รวมไปถึงเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทต่อคู่แข่ง ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวภายหลังการพูดคุย ว่า ผบ.ตร. ประเทศมาเลเซีย พร้อมคณะได้เดินทางเป็นการส่วนตัวมาพบเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี เนื่องจากพฤติกรรมการเปิดเผยความลับของนายชาเวีย ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลมาเลเซีย มีการให้ข้อมูลแก่สื่อมาเลเซียที่พาดพิงถึงรัฐบาลของ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยเรื่องนี้ประเทศมาเลเซียให้ความสำคัญอย่างมาก วันนี้ ผบ.ตร.มาเลเซีย มาสอบถามขั้นตอนการสอบสวนสืบสวน และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน ตนได้แจ้งไปว่าหากต้องการข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือคิดว่าจะเป็นประโยชน์ก็ยินดีที่จะให้รับรู้ แต่จะต้องดำเนินการผ่านอัยการและกระทรวงการต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศให้ถูกต้องตามขั้นตอน เพราะผู้ต้องหาไม่ใช่ชาวมาเลเซีย ไม่สามารถที่จะก้าวล่วงได้ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งทางผบ.ตร.มาเลเซียก็เข้าใจว่าในวันนี้ไม่สามารถที่จะดำเนินการอะไรได้มากนัก นอกจากการเยี่ยมเยียน และพูดคุย แต่ไม่มีการลงลึกในรายละเอียด เป็นเพียงการหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อที่จะไปวางกรอบ หรือวางแนวทางในการที่จะสืบสวนในประเทศมาเลเซียต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากทางเจ้าหน้าที่มาเลเซียต้องการพูดคุยกับผู้ต้องหา ทางการไทยจะอนุญาตหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตำรวจมาเลเซียต้องการพบและพูดคุยกับนายซาเวีย แต่เราไม่สามารถอนุญาตได้ ทั้งนี้ถ้าทำตามขั้นตอนจะพิจารณาอีกที ไม่สามารถตัดสินใจหรือตอบได้ในวันนี้ ต้องดูเหตุผล ความจำเป็น และความเกี่ยวข้องในคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย อีกทั้งต้องรอให้การสอบสวนของประเทศไทยเป็นที่ยุติเสียก่อน ซึ่งทางมาเลเซียทราบดีว่าการสอบสวนของประเทศไทยยังไม่จบ และการเข้ามาแทรกแซงในตอนนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง หากประเทศไทยอนุญาตให้สอบปากค ำหรือซักถามผู้ต้องหาก็จะถูกตำหนิ ส่วนทางสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้มีการส่งทนายเข้ามา มีการดูแลคนของเขาตามหน้าที่ ประเทศไทยในฐานะคนกลางทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ทำได้เพียงสร้างความเข้าใจว่ามีสิทธิแค่ไหนภายใต้กฎหมายไทย ไม่ใช่ร้องขอมาแล้วจะต้องอนุญาตทุกเรื่อง ซึ่งทางมาเลเซียเองก็เข้าใจและไม่อยากสร้างความลำบากใจให้กับตำรวจไทย เพียงแต่ว่าอยากแสดงออกให้รัฐบาล หรือประชาชนในประเทศมาเลเซีย เห็นถึงความพยายามที่จะเข้ามาหาข้อมูลหรือค้นหาความจริงที่เกิดขึ้น เพราะการกระทำของผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในประเทศไทยส่งผลกระทบไปถึงการเมือง หรือกระทบไปในหลายเรื่องที่ประเทศมาเลเซีย

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ที่เรือนจำ สำนวนยังอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ซึ่งจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 3 ในวันที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งจะครบกำหนดฝากขังผลัดสุดท้าย ประมาณวันที่ 15 ส.ค. หลังจากนั้น จะส่งสำนวนให้อัยการต่อไป ทั้งนี้ นายชาเวียยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาในมาเลเซีย ทางการมาเลเซียจึงประสงค์อย่างพูดคุยเพื่อหาข้อมูลไปประกอบแล้วดำเนินการต่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น