xs
xsm
sm
md
lg

ศึกชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ “เอก” มาแรงจัด“จักรทิพย์”ปลายแผ่วจับตา “ศรีวราห์”ผงาด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“บิ๊กแป๊ะ”ยังไม่แน่“บิ๊กเอก” เบียดเต็งผบ.ตร.คนใหม่ เชื่อขบวนการอำนาจเก่าถูกตีแตกจากฤทธิ์ “ศรีวราห์”พลิกมติ 6/0 ทำ “สมยศ”เสียฟอร์มถึงขั้นแพ้หมดรูป คาด ก.ตร.ประชุมแต่งตั้งผู้นำตำรวจเร็วกว่าทุกปี เตรียมเยียวยาถึงใจ ชง “บิ๊กปู”ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.

ถ้านับถอยหลังวันเกษียณอายุราชการของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.เหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนเศษเท่านั้นก็จะได้เวลาถอดหัวโขนลงจากตำแหน่งผู้นำสูงสุดของวงการสีกากี และดูเหมือนว่า 1 ปีของ “เซียนอ๊อด”จะเต็มไปด้วยสีสัน มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นในยุทธจักรตำรวจอย่างมากมาย ซึ่งคนไทยคงไม่ลืมปฏิบัติการขุดรากถอนโคนอดีตเจ้าพ่อสอบสวนกลาง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ และเครือข่าย นับเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศที่มีผู้คนสนใจมากที่สุดข่าวหนึ่งจนเป็นที่มาของวลีเด็ด “ยุคผมใหญ่แค่ไหนก็จับ”

ภาพพจน์ของ ผบ.ตร.ในช่วงออกตัวถือว่ามีคะแนนบวกอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการออกนโยบายจะเป็นยุคที่ตำรวจต้องเป็นที่รักของประชาชน มีการจัดแถว “ม้วนหาง”บรรดาพ่อม้าน้ำต่างๆด้วยการ “จับจริง”ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและปราบปรามอบายมุขอย่างเข้มข้นตั้งแต่บ่อนผ้าถุงยันบ่อนใหญ่ ทั้ง 5 เสือ 1 ผู้การถูกย้าระเนนระนาดจนจดบันทึกกันไม่ไหว นอกจากนั้นคดีอุกฉกรรจ์ต่างๆตำรวจยุค “เซียนอ๊อด”ตามลากคอคนร้ายเข้าตะรางจนหมดสิ้นภายใต้การสนับสนุนร่วมเป็นร่วมตายของน้องๆ นรต.รุ่น 36 นำโดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดารองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งใครๆก็ทราบกันว่า “บิ๊กแป๊ะ”คือน้องเลิฟ เสมือนแขนขวาที่ “เซียนอ๊อด”หมายมั่นปั้นมือให้เป็นทายาทสืบต่อในตำแหน่ง “ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” คนที่ 11

เกือบ 10 เดือนที่ผ่านมา คดีสำคัญต่างๆไล่มาตั้งแต่เกาะเต่า คดีฆ่าหมอพระ คดีระเบิดหน้าห้างสยามพารากอนและเกาะสมุย ดคีอันธพาลผยองที่ จ.นครปฐม และทุกคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบความไว้วางใจให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับสมัครพรรคพวก นรต.36 ออกทำงานด้วยความคึกคักซึ่งบางภาพออกมาน่าทึ่งชวนติดตามเพราะร่วมกันเป็นทีมใหญ่

แต่ภาพที่เหลื่อมออกมาให้เห็นอีกมุมหนึ่งก็คือวิธีโปรโมทเดิมๆ เป็นเพียงเปลือกสร้างภาพฉาบฉวย ไม่เป็นระบบ
จึงเป็นทั้งมุมบวกและลบไปพร้อมๆกันสำหรับ
ยุทธศาสตร์การทำงานที่ผิดธรรมชาติ แต่กระนั้นชื่อชั้นของ “บิ๊กแป๊ะ”ก็ยังโดดเด่นทั้งในฐานะ “มือประสาน 10 ทิศ”และเป็นหัวหอกของ นรต. 36 ซึ่งมีเพื่อร่วมรุ่นกระจายอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆมากมาย อาทิ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.สันติบาล พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภัคดี ผบช.สตม.พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ประจำฯ และอื่นๆที่มีทั้งรองผบช. และ ผบก.กระจายอยู่ทั่วประเทศ ผนวกกับแรงเชียร์จากแวดวงต่างๆตำแหน่ง “ว่าที่” ผบ.ตร.โฟกัสจึงจับมาที่ “บิ๊กแป๊ะ”มาโดยตลอด

เส้นทางของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ทำท่าจะไปได้สวยเพราะมาแรงหนุนจากหลายฝ่าย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นอกจากเป็นผู้บังคับบัญชายังให้การสนับสนุนอย่างออกหน้าออกตา แต่ในระยะหลังชะตาของ “เซียนอ๊อด”มักประสบแต่เรื่องร้ายๆประเดิมด้วยการตายของตำรวจหญิงหน้าห้อง และพบนามบัตรติดตรึงกับมีดพกใก้ลกับศพตำรวจสาวสวยคนนั้น พอเรื่องซาไปก็ถูกผู้ประกาศข่าวช่อง 7 สีเปลี่ยนชื่อชวนหวาดเสียวกลางอากาศ กลายเป็นขี้ปากเฮฮากันทั้งเมือง

หลังจากนั้นกลายเป็นช่วงขาลงไม่ว่าจะเป็นเรื่องถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือการออกมาแสดงจุดยืนเสนอแนวคิดเปิดบ่อนกาสิโนเสรี จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงขั้นทุนหายกำไรหด
กระทั่งวาระสุดท้ายของความสง่างามก็คือศึกประลองกำลังระหว่างพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. “เก่งใหญ่”กับพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. (นรต.35) “เก่งเล็ก”ระเบิดขึ้น จากการประชุมของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เมื่อวัน 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาเรื่องศาลปกครองสั่งให้เยียวยาคืนสิทธิ์ทวีคูณอายุราชการให้กับ “บิ๊กปู”แต่วงในเชื่อกันว่าหากปล่อยให้ปูลอยนวลก็จะเป็นการกิน 3 ต่อเข้าฮอร์ทหน้าตายเฉยคือก้าวกระโดดจาก ผบช.น.มาเป็น ผู้ช่วยผบ.ตร. หรือรองผบ.ตร.ก่อนเข้าเสียบเป็น ผบ.ตร.

กอปรกับในระยะหลัง “เซียนอ๊อด”เกิดอาการกินก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่เส้นกับ “บิ๊กปู”หลายต่อหลายเรื่อง รวมทั้งศึกประวัติศาสตร์ระหว่าง นรต. 35 กับ นรต. 36 ที่ชิงดีชิงเด่นกันมาโดยตลอดและเส้นทางอันสดใสของ “เด็กปั้น”เกมหักก้ามปูจึงถูกกำหนดขึ้น มีการลักไก่ช่วง “บิ๊กบราเธอร์”เผลอด้วยมติก.ตร.ครั้งที่ 1 เสมอ 2/2 ครั้งที่ 2 3/2แต่ที่สุดก็ไม่รอด บรรดาบิ๊กตำรวจหลายคนต้องกลับมากลืนน้ำลายตัวเองด้วยโหวตครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.ค. เป็น 6/0 ยอมยกธงขาวต้องเยียวยา “ศรีวราห์”

มติ “กลืนน้ำลาย”จะด้วยคำสั่งของผู้มีอำนาจหรือไรก็ตามย่อมสะท้อนให้เห็นความอ่อนแอ ความเป็นไม้หลักปักขี้เลนของบรรดา “บิ๊กตำรวจ” ทั้งหลาย
ขณะเดียวกันดุลอำนาจต่างๆกลับเอนมายังพล.ต.ท.ศรีวราห์ ในฐานะ “น้องเลิฟ”เขียวขี้ม้าตัวจริง นอกจากนั้นผู้ที่ได้อานิสงค์อย่างแท้จริงกลายเป็นพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมาย เจ้าของผลงานปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ “โรฮิงญา”เพราะการหักด่านค้านมติ ก.ตร.ใน 2 ครั้งแรกว่าน่าจะไม่ชอบมาพากลจนเบิกทางให้นำสู่การพิจารณาเป็นครั้งที่ 3 ย่อมได้รับความรู้สึกดีๆจาก “บิ๊กปู”และทีมผู้สนับสนุนประกอบด้วยอดีตบิ๊กตำรวจแห่งฟาร์มโชคชัย (4)

จากศึกประลองกำลังครั้งนี้ทำให้สง่าราศี “เซียนอ๊อด”กับสมัครพรรคพวกหมองไปเยอะ ทางกลับกันทั้ง “เอก - ศรีวราห์”กลับผุดผ่องมีน้ำมีนวลโดยเฉพาะ รองเอกฯ เร่งสปีดแซงหน้า “บิ๊กแป๊ะ”ไปอย่างหน้าตาเฉย ทั้งในเรื่องแรงหนุนจาก “วัดนวลนรดิศคอนเน็กชัน” กับหลักการอาวุโส และผลงานปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา

แต่ควันหลงศึกประลองกำลัง ด้านหนึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อท่าทีของพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ไม่น้อยเพราะไม่เพียงเหล่าพล.ต.อ.หัวหงอกหัวดำจะหงอต่ออำนาจการเมืองเท่านั้น มุมของ “บิ๊กเอก” ก็มีคำถามว่าเหตุไรก่อนหน้าจึงร่วมด้วยช่วยกันกับก๊วน “เซียนอ๊อด”ด้วย คำตอบน่าจะอยู่ที่บาดแผลในใจตั้งแต่ถูกข้ามหัวมาครั้งหนึ่งทั้งที่เจ้าตัวมีอาวุโสสูงสุด มาครั้งนี้ยังมีพฤติการณ์ชัดเจนว่าต้องการดันให้ “บิ๊กแป๊ะ”ขึ้นมาสืบอำนาจ

คงไม่มีใครยอมถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว เมื่อได้เวลา จังหวะที่เหมาะสม การโต้กลับด้วยมติ 6/0 สร้างความปั่นป่วนให้กับขั้ว “เซียนอ๊อด”อย่างที่สุด

นับเป็นยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายรุกคาดไม่ถึง และไพ่ใบสุดท้ายที่เป็นลายแทงให้เห็นความสมพันธ์ระหว่าง “บิ๊กเอก”กับ “บิ๊กปู”ก็คือพล.ต.ต.พิทยา ศิริลักษณ์ หัวหน้าสำนักงาน รองผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมาย
พล.ต.ต.พิทยา ศิริลักษณ์ เป็นใครมาจากไหน นายตำรวจผู้นี้คือ นรต. 35 เพื่อนร่วมรุ่นของพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เมื่อต่อจิ๊กซอว์จนครบทุกตัวจะเห็นได้ว่าพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 มิใช่ตะเกียงขาดใส้ เรียกว่าครบเครื่องเรื่องคอนเน็กชั่น

ใครที่เคยคิดว่า “บิ๊กเอก”เป็นหมู อ่อนแอ ไม่เอาไหนคงต้องคิดกันใหม่ทั้งหมดเพราะเมื่อคราวถึงพริกถึงขิง นายตำรวจท่าทางนิ่มๆ สุภาพๆกลับเป็นพยัคฆ์ตะปบเหยื่อจนอยู่หมัด
ล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาจากฝั่ง “บิ๊กแป๊ะ”โดยผู้ใก้ลชิดถึงกับเอ่ยปากขอยอมแพ้ไม่สู้เกมชิงบัลลังก์ ผบ.ตร.คนที่ 11 อีกต่อไปแล้ว ช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างทำใจ หากผู้บังคับบัญชาไว้วางใจเลือกใครเป็น ผบ.ตร.สืบต่อจากพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ก็สามารถยอมรับได้

สำหรับการแต่งตั้งนายตำรวจระดับ พล.ต.อ. ตามปกติทุกๆปีจะเริ่มในเดือน ก.ย.แต่ในปีนี้มีกระแสข่าวว่าจะเริ่มต้นเดือน ส.ค.ซึ่งเร็วกว่าทุกครั้ง คาดว่านอกจากการพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่แล้วยังมีเรื่องของพล.ต.ท.ศรีวราห์ โดยคาดกันว่าจะได้รับการเยียวยาอย่างสาสม ขยับขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.หลักแทนพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร.ที่จะเกษียณฯ

อย่างไรก็ตามในยุทธจักรสีกากี อะไรที่ว่าแน่ๆอาจจะมีสิทธิ์ “พลิก”ได้ทุกนาทีแม้แต่ฝั่ง “บิ๊กแป๊ะ”ที่ยกธงขาวยอมแพ้ไปแล้วยังมีเสียงกองเชียร์ทำนองว่าอย่าคาดหวังกับระบบอาวุโสจนเกินไปเพราะในอดีตก็มีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่แล้ว นอกจากนั้นบรรดาตัวสอดแทรกล้วนแต่มีความหวังขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนที่ 11 ทั้งสิ้นเช่นพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร สายพรรคเพื่อไทย แม้จะรู้หนังหน้าตัวเองและมักเอ่ยปาก กับสังคมรอบตัวว่า “ผมหมดสิทธิ์” แต่ในใจลึกๆคนใก้ลชิดยืนยันว่าเจ้าตัวยังมีความหวัง

อีกคนที่ประมาทไม่ได้ก็คือพล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผบ.ตร. AEC ผู้มีผลงานโดดเด่นเฉพาะทาง และเป็นที่ทราบกันดีว่าไม่มีความขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น บทสนทนาบนโต๊ะอาหารของบรรดาอดีตบิ๊กตำรวจแห่งฟาร์มโชคชัย มีคนถามถึงและทักว่าอาจเลือกคนโคราช เพื่อยุติปัญหาขัดแย้งใน สตช.ยังเป็นปริศนาให้ติดตาม และเป็นเครื่องยืนยันว่า รองผบ.ตร.ทุกคนต่างมีความหวังขึ้นสู่จุดสูงสุด
เมื่อสู้กันสุดฤทธิ์ ใช้ไหวพริบกันสุดเหวี่ยง ไม่ว่าหวยจะออกที่ “เอก -แป๊ะ -จูดี้ -วุฒิ” สุดท้าย “โชค-วาสนา”จะเป็นคำปลอบประโลมสำหรับผู้ผิดหวัง


กำลังโหลดความคิดเห็น