ผบ.ตร.โต้ “บีบีซี” ยันยันหลักฐานสำคัญดีเอ็นเอผู้ต้องหาคดีเกาะเต่าไม่หาย อยู่ที่นิติเวชฯ เชื่อเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของสื่อต่างชาติ ชี้หากจะขอตรวจพิสูจน์ต้องให้ศาลพิจารณา
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวจากสำนักข่าวบีซีซี ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ตำรวจไทยทำหลักฐานดีเอ็นเอในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี สูญหายไปว่า ล่าสุดตนได้รับรายงานข้อเท็จจริงจาก พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่ากรณีที่มีสื่อต่างชาติไปสัมภาษณ์พนักงานสอบสวนเกี่ยวกับวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอของผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวที้่เกาะเต่าสูญหาย เรื่องนี้ไม่ใช่กรณีสำนวนการสอบสวนสูญหาย เพราะขณะนี้สำนวนการสอบสวนอยู่ที่พนักงานอัยการ และได้ส่งฟ้องไปที่ศาลแล้ว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ส่วนเรื่องดีเอ็นเอที่พนักงานสอบสวนตอบไปอาจมีการสื่อสารกันไม่ถูกต้อง โดยพนักงานสอบสวนบอกไปว่าวัตถุพยานไม่มีเก็บไว้ที่พนักงานสอบสวน เพราะในทางปฏิบัติหลังจากมีการเก็บหลักฐาน วัตถุพยานในคดีที่ต้องตรวจหาดีเอ็นเอ พนักงานสอบสวนจะต้องส่งไปยังสถาบันนิติเวชวิทยาที่จะต้องตรวจสอบว่าวัตถุพยานที่ได้รับมามีดีเอ็นเอตรงกับตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้ต้องหาหรือไม่ ข้อมูลทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้ในเครื่องตรวจดีเอ็นเอ และทางสถาบันนิติเวชฯ จะผลการตรวจพิสูจน์มาให้พนักงานสอบสวน จึงไม่จำเป็นที่พนักงานสอบสวนจะต้องเก็บหลักฐานเหล่านั้นเก็บไว้ กรณีนี้ทนายความของผู้ต้องหาได้ร้องขอต่อศาลเพื่อขอวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอให้หน่วยงานอื่นตรวจสอบ แต่พนักงานสอบสวนตอบว่าไม่มี แต่ไม่ได้หมายความว่าวัตถุพยานในคดีนี้สูญหาย เพราะพนักงานสอบสวนไม่มีหน้าที่เก็บพยานหลักฐาน เขาได้ส่งพยานหลักฐานมาตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยาแล้ว เมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์แล้วก็ได้รายงานทุกอย่างตามขั้นตอน
“กรณีดังกล่าวเป็นความเข้าคลาดเคลื่อนของผู้สื่อข่าวต่างประเทศ บางครั้งผู้สื่อข่าวต่างชาติที่มาพูดคุยกับตำรวจ ภาษาไทยอ่อนแอ เลยเข้าใจผิดๆ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรหาย เป็นความเข้าใจผิด ทุกอย่างอยู่ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจ รวมทั้งผลการพิสูจน์ทราบดีเอ็นเอ แต่เมื่อทนายความของผู้ต้องหาร้องขอพยานหลักฐานตรงนี้ พนักงานสอบสวนต้องตอบว่าไม่มี เพราะไม่มีหน้าที่เก็บพยานหลักฐาน เพียงแต่ผู้ที่มีหน้าที่เก็บผลการตรวจพิสูจน์ว่าตัวอย่างดีเอ็นเอที่พบในที่เกิดเหตุตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องหา ไปถามพนักงานสอบสวนที่ไหนก็ต้องตอบว่าไม่มี เพราะมันอยู่ที่สถาบันนิติเวชฯ” ผบ.ตร.ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจะขอตรวจพิสูจน์วัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอของผู้ต้องหาใหม่สามารถทำได้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อทนายความผู้ต้องหาร้องขอมาแล้วตำรวจจะต้องส่งให้ ไม่ใช่หน้าที่