ปธ. ศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง เข้าพบ รมว.ยุติธรรม เผยเดินหน้าช่วยเหลือ ปชช. แล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯเชื่อหากมีอาสาเครือข่ายภาคประชาชนเต็มพื้นที่สามารถช่วยแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำได้มากขึ้น
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมด้วย ศ.ดร.พายัพ ดอกบัว ประธานศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เข้าพบ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อรายงานผลการดำเนินของศูนย์ยุติธรรมชุมชน
ศ.ดร.พายัพ กล่าวว่า พล.อ.ไพบูลย์ ได้ชมเชยการดำเนินการของศูนย์ฯ และ ได้ชี้แนะแนวทางด้านการพัฒนาประชาชนระดับรากหญ้าให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ซึ่งปัจจุบันการดำเนินการของศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ต.บางรักพัฒนา ได้ดำเนินการประสบผลสำเร็จไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งด้านไกล่เกลี่ย ป้องกัน ปราบปราม รวมทั้งระบบให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ปัญหาส่วนใหญ่ที่ประชาชนประสบ คือ หนี้นอกระบบ ซึ่งศูนย์เราก็เป็นผู้ประสานไกล่เกลี่ยให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อช่วยชาวบ้านแก้ปัญหาและเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ ยังมีปัญหายาเสพติด ปัญหาเยาวชนติดตู้เกม โดยชาวบ้านแจ้งเบาะแสมายังศูนย์ เพื่อให้ศูนย์ประสานหน่วยงานภาครัฐเข้าดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ได้รับความร่วมมือจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมในการแนะนำ ชี้นำในเรื่องต่างๆ อีกด้วย
ด้าน น.ส.ปิติกาญจน์ กล่าวว่า ศ.ดร.พายัพ เป็นผู้มีจิตอาสาที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ โดยลำพังหน่วยงานภาคราชการแล้วเข้าไม่ถึงพื้นที่จริง ซึ่งการแก้ปัญหาบางเรื่องเช่นหนี้นอกระบบ กรณีเจ้าหนี้ข่มขู่ หากอาสาสมัครไม่เข้มแข็งจริงก็แก้ปัญหาได้ยาก ทั้งนี้ นอกจากศูนย์ดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ยังช่วยเหลือในการแจ้งสิทธิต่างรวมทั้งการประสานงานระหว่างภาคประชาชนกับภาครัฐกรณีผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม หรือการเข้าถึงกองทุนยุติธรรม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าของกรมคุ้มครองสิทธิฯ หรือยุติธรรมจังหวัดมีเพียงระดับจังหวัด อาจเข้าถึงพื้นที่ได้น้อย ซึ่งหากเรามีเครือข่ายภาคประชาชนที่อยู่ในพื้นแบบนี้มาช่วยดูแลเต็มพื้นที่ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหา ลดความเหลื่อมล้ำได้มากขึ้น