ตำรวจเผยให้ภรรยา “สมยศ” ช่วยรวบรวมข้อมูลเอกสาร คาดอีก 2 - 3 วัน สรุปประเด็นสังหารได้ ส่วนผลการตรวจคลิปเสียงสนทนาเบื้องต้นยังไม่พบเกี่ยวข้องคดี ขณะผลสอบ “เสธ.ณุ” ยอมรับช่วยเจรจาเคลียร์หนี้ระหว่างเจ้าพ่อคาเฟ่ กับ “เล็ก ชุมพร” จริง แต่ไม่ได้ใช้กำลัง ส่วนการเล่นพนันในบ้านผู้ตาย ยอดเงินไม่สูง แค่ 7 - 8 แสนบาท
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามคดีสังหาร นายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ ว่า ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง เพราะหลักฐานโดยเฉพาะพยานเอกสารมีค่อนข้างมาก ซึ่งมีคดีที่เกี่ยวกับผู้ตายที่ให้การช่วยเหลือ หรือปรึกษาด้านคดี และหลักฐานทางการเงิน โดยให้ภรรยาผู้ตายช่วยรวยรวมข้อมูลให้ คาดว่าจะใช้เวลา 2 - 3 วัน ในการรวบรวมเอกสาร ในการสรุปประเด็นและสามารถตัดประเด็นต่างๆ ทิ้งได้
ส่วนการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ดินนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกคู่กรณีทั้ง 20 คดี ที่ผู้ตายได้จดบันทึกไว้มาสอบปากคำเพิ่มเติม และตรวจสอบความเกี่ยวข้องต่างๆ และจะไล่สอบปากคำทีละคดี รวมทั้งทำการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของผู้ตายในสมุดบันทึกและคลิปเสียงการสนทนาต่างๆ ซึ่งเบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อความเสียงไปบ้างแล้ว และยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสอบปากคำ พ.อ.ภาณุ จันทร์ศรี อดีตนายทหารสังกัดทหารบกมีส่วนเกี่ยวข้องทางคดีอย่างไร พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ได้รับข้อมูลมาว่า เกี่ยวข้องกับการเจรจาหนี้สินระหว่างนายสมยศ และ นายสมชัย นิตยา หรือ เล็ก ชุมพร โดยยอมรับว่าได้เข้าไปเจรจาตามที่ผู้ตายสั่งการมา ยืนยันว่า ไม่ได้มีการใช้กำลัง
ส่วนการสอบปากคำ นางสาวมุกรินทร์ นิตยา หรือ เรียม น้องสาว นายสมชัย และ นายปริญญา ปิยะภาค หรือ ปีเตอร์ เพื่อน นางศุภนิดา นั้น ทั้งคู่ยืนยันว่าได้ไปเล่นพนันภายในบ้านของนายสมยศจริง มีการได้เสียกันเรื่องเกี่ยวกับเงินพนันเท่านั้น แต่จำนวนเงินไม่ได้มาก ประมาณ 7 - 8 แสนบาท เล่นกันประมาณ 3 - 4 ครั้ง