ป. จับแก๊งหลอกร้านทอง หลังโทรศัพท์เข้ามาติดต่อขอซื้อทองคำแท่งหนัก 120 บาท SMS แจ้งเงินเข้าบัญชีแล้ว แต่กลับเป็นเช็คเด้ง สูญเงินไปกว่า 2 ล้านบาท
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 ร่วมแถลงผลการจับกุม น.ส.อรญา เดชชญานนท์ หรือ ไอซ์ หรือ กอล์ฟ หรือ คัทลียา มาลี อายุ 34 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ นายวงศ์วริศ กิตติวัฒน์มงคล อายุ 32 ปี ชาว จ.เชียงราย และ นายพิษณุ จันทร อายุ 29 ปี ชาว จ.อุทัยธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ในข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ (ทองคำ) โดยสามารถจับกุม น.ส.อรญา และ นายวงศ์วริศ ได้ที่บริเวณ หมู่ 7 บ้านเกาะทราย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนจะขยายผลจับกุม นายพิษณุ ได้ที่บริเวณลานจอดรถร้านค้าสวัสดิการกองทัพเรือวนอุทยาน ถ.อิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันเปิดเว็บไซต์เพื่อติดต่อกับผู้ที่ต้องการกู้เงินด่วน โดยจะเน้นบุคคลที่ติดเครดิตบูโร ทำให้ไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ ก่อนจะนัดเจอบุคคลเหล่านั้นพร้อมให้เงิน 10,000 บาท ให้ไปเปิดบัญชีแบบกระแสรายวัน พร้อมทั้งขอสมุดเช็คไป โดยอ้างว่าจะโอนจำนวนเงินที่ต้องการกู้ไว้ที่บัญชีธนาคารในภายหลัง แต่เมื่อดำเนินการทุกอย่างเสร็จ กลุ่มผู้เสียหายกลับไม่สามารถติดต่อกลุ่มผู้ต้องหาได้ และกลัวว่าจะถูกนำสมุดเช็คไปใช้อย่างผิดกฎหมาย จึงเข้าแจ้งความไว้ ก่อนจะอายัดบัญชีและสมุดเช็คดังกล่าว
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า ในขณะที่ทางกลุ่มผู้ต้องหาเมื่อได้สมุดเช็คมาแล้ว ก็ตระเวนหาร้านทองเพื่อหลอกลวง โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ติดต่อขอซื้อทองคำแท่งจากร้านทองพรพรรณ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จำนวน 120 บาท มูลค่ากว่า 2,250,000 บาท ก่อนจะว่าจ้างให้ผู้ขี่รถ จยย. รับจ้างนำเช็คของผู้ที่เสียหายที่ต้องการกู้เงินด่วน ซึ่งถูกอายัดไปแล้วนั้นไปเข้าบัญชีของเจ้าของร้านทองดังกล่าว พร้อมโทรศัพท์บอกร้านทองว่าโอนเงินให้แล้ว เมื่อทางเจ้าของร้านได้รับ SMS จากธนาคารว่ามียอดเงินเข้า แต่ไม่ได้สังเกตว่ายอดเงินดังกล่าวยังไม่ได้เคลียริงเช็ค หรือตรวจสอบสถานภาพเช็คว่าสามารถขึ้นเงินได้หรือไม่นั้น ทำให้เจ้าของร้านเชื่อและนัดให้กลุ่มผู้เสียหายมารับทองคำแท่งได้ทันที ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายก็จะว่าจ้างให้ผู้ขี่รถ จยย. รับจ้างไปรับทองคำแท่งที่ร้านดังกล่าวแทนตน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เสียหายจดจำใบหน้าได้ ก่อนจะปิดโทรศัพท์ และเจ้าของร้านทองเพิ่งจะทราบในวันถัดไปว่าเช็คดังกล่าวไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที
ด้าน น.ส.อรญา รับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งนำเงินทั้งหมดไปแบ่งกัน ก่อนจะนำไปเล่นการพนันในบ่อนกาสิโน โดยเมื่อปี 2558 เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในท้องที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ สภ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี อีกด้วย ทั้งนี้ ก็เคยถูกจับกุมในคดีดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อดำเนินคดี ขณะเดียวกัน จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1 รายมาดำเนินคดีต่อไป