กลุ่มพี-มูฟ ร้อง ยธ.-ทส.ช่วย หลังนโยบายรัฐสั่งโค่นสวนยางพาราในพื้นที่บุกรุกทั่วประเทศกระทบชาวสวนกว่า 1.5 ล้านคน
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม ชาวบ้าน กลุ่ม P-MOVE ที่ถูกดำเนินคดีทางอาญาในคดีบุกรุกป่า เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พ.ต.ท.ประวุธ วงษ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ และตัวแทนจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อหารือถึงแนวทางในการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการโค่นสวนยางพาราและการถูกดำเนินคดีจากการใช้ประโยชน์ที่ดินเอกชน รวมถึงที่ ส.ป.ก.
นายไมตรี จงไกรรักษ์ แกนนำคณะทำงานขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-MOVE) กล่าวในที่ประชุมว่า จากนโยบายการโค่นต้นยางพาราของรัฐบาลได้ส่งผลกระทบต่อชาวเกษตรกรที่ทำสวนยางทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านคน ดังนั้นจึงอยากเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือทุกคนที่ได้รับผลกระทบซึ่งอยู่ในพื้นที่เดิม นอกจากนี้ยังมองว่านโยบายการส่งเสริมการโค่นต้นยางพาราทั่วประเทศนั้น อาจทำให้เกิดความขัดแย้งต่อประเทศได้
สำหรับข้อสรุปของการประชุมในวันนี้ มี 4 ข้อสำคัญ คือ 1. จะมีการปรับปรุงคณะอนุกรรมการซึ่งมี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ให้มีบทบาทหน้าที่ที่สามารถแก้ปัญหาและกรณีเร่งด่วน รวมถึงจัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถสั่งชะลอการดำเนินการได้ 2. จัดให้มีการประชุมเพื่อหยิบยกกรณีเช่นนี้ทุก 15 วัน 3. กรณีที่ได้รับผลกระทบจะต้องมีการเยียวยา โดยให้ราชการมีระเบียบใหม่ และ 4. ออกแบบแนวทางในการช่วยเหลือในกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งแนวทางที่ยังไม่แน่นอน เนื่องจากวันนี้การประชุมเป็นเพียงเวทีการแลกเปลี่ยน หารือ และให้กรรมการทราบถึงคดีความต่างๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมมีกลุ่มชาวบ้านจากทั่วทุกภาคกว่า 20 คน เข้าร่วมฟังและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จากนโยบายการโค่นต้นยางพาราของรัฐบาล ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก