ชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลขนงพระกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบสนามแข่งรถ ภายในโครงการโบนันซ่ารีสอร์ทเขาใหญ่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า บริษัทของนักธุรกิจชื่อดังได้บุกรุกที่ดิน ทั้งในเขตป่าถาวร ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ สปก. 6 จุด เนื้อที่กว่า 151 ไร่
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมในปี 2517 พบว่า การบุกรุกได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากส่วนที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องเพียง 6 แปลง และขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มเติม โดยเฉพาะการก่อสร้างสนามแข่งรถ ซึ่งมีการสร้างถมปิดพื้นที่สาธารณประโยชน์และลำรางสาธารณะ โดยพื้นที่แข่งรถส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้าและแนวเขตป่าไม้ถาวร
ด้าน น.ส.พัทธมน เตชะณรงค์ ผู้ดูแลสนามแข่งรถโบนันซ่า ได้นำหลักฐานสำเนาโฉนดที่ดินให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมชี้แจงว่าบิดาได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจากชาวบ้านในพื้นที่ตามเอกสารสิทธิ์ ส่วนที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์กว่า 100 ไร่ ไม่ทราบข้อมูล แต่ยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกพื้นที่ พร้อมยืนยันว่า ครอบครัวไม่มีเจตนาจะบุกรุก หรือทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศปรากฏชัดเจนว่า สิ่งปลูกสร้างนั้น ทับทางสาธารณะที่เป็นทางเดินอยู่เดิม และเป็นการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการค้า ซึ่งมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายฟอกเงิน ส่วนด้านความผิดทางอาญาต้องดูที่เจตนา
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมในปี 2517 พบว่า การบุกรุกได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากส่วนที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องเพียง 6 แปลง และขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มเติม โดยเฉพาะการก่อสร้างสนามแข่งรถ ซึ่งมีการสร้างถมปิดพื้นที่สาธารณประโยชน์และลำรางสาธารณะ โดยพื้นที่แข่งรถส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้าและแนวเขตป่าไม้ถาวร
ด้าน น.ส.พัทธมน เตชะณรงค์ ผู้ดูแลสนามแข่งรถโบนันซ่า ได้นำหลักฐานสำเนาโฉนดที่ดินให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมชี้แจงว่าบิดาได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจากชาวบ้านในพื้นที่ตามเอกสารสิทธิ์ ส่วนที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์กว่า 100 ไร่ ไม่ทราบข้อมูล แต่ยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกพื้นที่ พร้อมยืนยันว่า ครอบครัวไม่มีเจตนาจะบุกรุก หรือทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศปรากฏชัดเจนว่า สิ่งปลูกสร้างนั้น ทับทางสาธารณะที่เป็นทางเดินอยู่เดิม และเป็นการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการค้า ซึ่งมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายฟอกเงิน ส่วนด้านความผิดทางอาญาต้องดูที่เจตนา