“บิ๊กต๊อก” สั่งรื้อระบบเยี่ยมนักโทษทั่วประเทศ หลังญาติโวยของแพง ตัดปัญหาแอบขายบัตรคิวเยี่ยมญาติ

“บิ๊กต๊อก” สั่งรื้อระบบเยี่ยมนักโทษทุกเรือนจำ จ่อนำระบบคอมพ์ออกบัตรคิวเยี่ยมญาติ หลังมีการขายบัตรคิว จี้ติดป้ายราคาสินค้าให้ชัดเจน กำชับห้ามขายแพงเกินท้องตลาด หลังญาติโวยซื้อยาคูลท์ขวดละ 19 บาท

วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่กรมราชทัณฑ์ นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์ปรับเปลี่ยนระบบการเยี่ยมญาติและระบบการบริการเยี่ยมญาติให้ผู้ต้องขัง เนื่องจากรัฐบาลมองว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการบริการจากภาครัฐ ทั้งนี้เนื่องจากกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ทำงานด้านบริการประชาชน เพราะในแต่ละวันจะมีญาติผู้ต้องขังมาเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นจำนวนมาก โดยเรือนจำทั่วประเทศทั้ง 143 แห่ง หากคิดเป็นจำนวนผู้มารับบริการคาดว่าจะมีมากถึง 1ล้านคน คิดคำนวณจากจำนวนผู้ต้องขัง 3 แสนคน

นายวิทยากล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับการร้องเรียนจากญาติผู้ต้องขังกรณีการรับบริการจากเจ้าหน้าที่เรือนจำที่อาจจะเกิดความไม่สะดวก ทั้งกิริยาท่าท่างที่ไม่เหมาะสม สถานที่รองรับจำนวนญาติผู้ต้องขังที่เพิ่มจำนวนตามผู้ต้องขังในเรือนจำ ทั้งห้องน้ำ ห้องเยี่ยม ที่จอดรถ ทุกอย่างจะเป็นผลสอดคล้องต่อเนื่องกันเป็นระบบ ดังนั้น พล.อ.ไพบูลย์จึงเกิดแนวคิดให้กรมราชทัณฑ์ปรับระบบการให้บริการที่ดีขึ้นเพื่อความความเท่าเทียม ลดข้อครหาต่างๆ และภาพลักษณ์ที่ไม่ได้

“ปัญหาที่พบเจอคือ เวลาญาติมาเรือนจำจะเจอเจ้าหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตร และต้องมาซื้อของแพงกว่าราคาท้องตลาดทั่วไปแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือที่เรียกว่าตลาดหน้าคุก นอกจากนี้ จำนวนห้องน้ำก็ไม่เพียงพอต่อญาติที่มาเยี่ยม ความแออัด ไม่เป็นระบบ โดยสิ่งเหล่านี้กำลังจะได้รับการแก้ไข เพราะญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องขังบางครั้งต้องเหมารถมาจากต่างถิ่นเพื่อมาเยี่ยมลูกเยี่ยมญาติ แต่มาถึงไม่ได้จองคิว คิวเต็ม เกิดปัญหาการซื้อขายบัตรคิว กลายเป็นช่องว่าของปัญหาทุจริตคอร์รัปชันระหว่างเจ้าหน้าที่และญาติผู้ต้องขัง และกลายเป็นปัญหาเชิงระบบตามมา” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว

นายวิทยากล่าวต่อว่า หลังจากนี้ญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องขังจะได้รับระบบการบริหารที่ทันสมัยมากกว่าเดิม โดยกรมจะนำระบบคอมพิวเตอร์ในการออกบัตรเยี่ยมบัตรคิวในการฝากเงินและซื้อสินค้า ทั้งนี้แต่ละเรือนจำต้องติดป้ายแสดงตัวอย่างสินค้า และราคาจำหน่ายซึ่งต้องเท่าเทียมหรือต่ำกว่าท้องตลาด

สำหรับการจัดระเบียบเรือนจำทั่วประเทศนั้น พล.อ.ไพบูลย์ยังคงสั่งให้เดินหน้าต่อไป รวมถึงการป้องกันปัญหายาเสพติด โทรศัพท์มือถือในเรือนจำอย่างเข้มงวด รวมถึงการบริการประชาชนซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องที่มุ่งเน้นการให้บริการประชาชน ขณะนี้เรือนจำพิเศษมีนบุรี เริ่มแก้ปัญหาญาติเยี่ยมล้น ด้วยการเปิดให้บริการไม่มีหยุดราชการ และไม่มีการพักเที่ยง

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนมายังกระทรวงยุติธรรมจากญาติผู้ต้องขังที่เดินทางไปเยี่ยมญาติที่เรือนจำแห่งหนึ่ง พบว่าราคาสินค้าที่ขายในสโมสรมีราคาค่อนข้างสูงกว่าท้องตลาดหลายเท่า เช่น ยาคูลท์ ปกติ 7 บาท เรือนจำขาย 19 ไก่ย่าง 5 ดาวที่มีขนาดเล็กกว่าท้องตลาดขายในราคา ครึ่งตัว 80 บาท หมูยอแท่งเล็ก ร้านปกติ ขาย 10-15 เรือนจำ ขาย 37 บาท ปัญหาดังกล่าว พล.อ.ไพบูลย์ได้สั่งการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ไปจัดระบบและแก้ปัญหา