“ดีเอสไอ” อายัดเพิ่มที่ดินย่านปทุมธานีกว่า 29 ไร่ของ “เสี่ยศุภชัย” คดีโกงเงินสหกรณ์คลองจั่น เผยพบธนบัตรปลอม 100 ล้านในตู้เซฟที่ยึดได้จากอาคารยูทาวเวอร์ เจ้าหน้าที่มะกันยันธนบัตรไม่เคยผลิตใช้ในอเมริกา จ่อสอบปากคำเจ้าตัวที่เรือนจำ
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 แถลงผลการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เกี่ยวกับคำสั่งของศาลแพ่งที่ให้เพิกถอนการอายัดทรัพย์สินของบริษัท เอ็มโฮม เอสพีวี 2 จำกัด และการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดี รวมทั้งผลการตรวจค้นห้องทำงานของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น ที่อาคารยู ทาวเวอร์
นางสุวณากล่าวว่า จากการตรวจสอบตู้นิรภัยของนายศุภชัย พบธนบัตรคล้ายธนบัตรของสหรัฐอเมริกา โดยบนธนบัตรดังกล่าวระบุมูลค่าฉบับละ 100 ล้านดอลลาร์ และมีการระบุตัวหนังสือว่า “The United States of America” โดยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ได้เชิญเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกามาตรวจสอบเบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ความเห็นว่าธนบัตรที่ตรวจยึดได้นี้รัฐบาลอเมริกาไม่เคยออกประกาศใช้ และไม่ใช่สกุลเงินของสหรัฐอเมริกา ธนบัตรลักษณะนี้มักถูกนำไปใช้ในกรณีของการลอกลวง ฉ้อโกง อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้ให้เจ้าหน้าที่จากสถานทูตสหรัฐอเมริกานำเอกสารและธนบัตรเหล่านี้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ ดีเอสไอเชื่อว่าเอกสารทั้งหมดถูกจัดทำขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อให้แก่บุคคล อีกทั้งยังมีเอกสารที่มีความสอดคล้องกัน จึงอาจจะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือหลอกลวงด้วย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับฝากทรัพย์ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษอีกจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียด
สำหรับเอกสารอื่นที่ตรวจพบ เช่น เอกสารโฉนดที่ดินที่มีชื่อของนายศุภชัย จำนวน 3 แปลง ที่ อ.คลองสี่ และอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รวมเนื้อที่ 29 ไร่ 3 งาน อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะต้องเดินทางไปสอบปากคำนายศุภชัยที่เรือนจำอีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงเจตนาและข้อมูลเพิ่มเติมจากเอกสารและหลักฐานที่ตรวจสอบพบจากตู้นิรภัยดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้มีความเห็นให้แยกสำนวนการสอบสวนเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีสหกรณ์ฯ คลองจั่น เป็นอีกสำนวน โดยให้แยกเลขสืบสวนออกจากคดีที่ 63/2557 ส่วนกรณีคำสั่งของศาลแพ่งที่ให้ดีเอสไอเพิกถอนการอายัดทรัพย์สินของบริษัท เอ็มโฮม เอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งสหกรณ์ฯ คลองจั่นมีหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ โดยแนบคำสั่งของศาลแพ่งขอให้ทำการเพิกถอนการอายัดที่ดินจำนวน 44 ไร่ ของบริษัท เอ็มโฮม เอสพีวี 2 จำกัด เนื่องจากสหกรณ์ฯคลองจั่นกับทางบริษัทได้ทำสัญญาตกลงยอมความกัน โดยทางบริษัทขอให้สหกรณ์ฯคลองจั่นร้องขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งถอนสัญญาที่ดินแปลงนี้ นั้น ที่ประชุมเห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินแปลงนี้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในคดี เนื่องจากการตรวจสอบหุ้นของบริษัทดังกล่าวพบว่านายศุภชัยเคยถือหุ้นในระยะหนึ่ง จากนั้น ภายหลังทึ่ดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษก็ได้มีการโอนหุ้นจำนวนประมาณ 20 ล้านหุ้นให้แก่บุคคลที่ 3 ซึ่งการกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน เพราะฉะนั้น ดีเอสไอจึงจำเป็นต้องใช้ที่ดินดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในคดีฟอกเงิน และพนักงานสอบสวนจะได้แยกเป็นคดีฟอกเงินต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสารและธนบัตรที่พบในตู้นิรภัยมีมูลค่าหรือจำนวนเท่าไหร่ พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ เพราะว่าไม่มีสกุลเงินรองรับ โดยธนบัตรหนึ่งใบระบุมูลค่า 100 ล้าน ซึ่งดีเอสไอพบธนบัตรลักษณะนี้ในตู้เซฟประมาณ 5-6 ปึก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากสถานทูตฯ ได้ระบุว่าธนบัตรดังกล่าวรัฐบาลอเมริกาไม่เคยจัดทำธนบัตรลักษณะแบบนี้ และธนบัตรลักษณะนี้ไม่ใช่การปลอมธนบัตร เพราะไม่เคยถูกผลิตขึ้นมาเลย ดังนั้นต้องทำการสอบสวนอีกครั้ง เพราะอาจเข้าข่ายการหลอกลวง
พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวต่อว่า สำหรับเอกสารที่มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษนั้น พบว่าเป็นการเอกสารที่รับฝากเงิน โดยภาษาอังกฤษที่ใช้ในเอกสารนั้น เจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ใช่ภาษาทางราชการนอกจากนี้บนหัวกระดาษของเอกสารเหล่านี้มีตราประทับของสหกรณ์ฯ เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนมูลค่าการรับฝากเงินแต่ละฉบับไม่ตรงกัน ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีจำนวนมากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบโดยละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใบรับฝากเงินที่พบในตู้เซฟมีการทำขึ้นเมื่อปี 2553 โดยทางพนักงานสอบสวนจะต้องไปดำเนินการสอบสวนนายศุภชัยถึงวัตถุประสงค์อีกครั้ง